รวมเรื่องราวน่าสนใจต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รีวิวภาพยนต์ ดูหนังออนไลน์ หนังสยองขวัญ หนังโหด หนังหายาก หนังสือการ์ตูนสยองขวัญ เราจะมารีวิวให้อ่านและให้โหลดกันนะครับ เรียกได้ว่าครบเครื่องเลยที่นี้ที่เดียว ยินดีต้อนรับเพื่อนทุกคน ^ ^ Review Movie Horror ^ ^
วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Dr. Lamb 1992 ด็อกเตอร์แลมป์ (คุณขอมา)
โครตหนังสยองขวัญต้องห้ามหายากเกรดสามจากประเทศฮ่องกง (เกรดสามในที่นี้มีความหมายว่าระดับความรุนแรงของหนังครับ ซึ่งประเทศฮ่องกงมีการจัดลำดับตามนี้ เกรดหนึ่ง ภาพยนต์สำหรับทุกเพศทุกวัย เกรดสอง ภาพยนต์ที่ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ เกรดสาม ภาพยนต์ที่เยาวชนไม่สมควรดูโดยเด็ดขาด ซึ่งหากเทียบเป็นมาตราฐานสากลแล้ว หนังเกรดสามของฮ่องกงก็จะอยู่ในระดับ เรต X ,NC-17 นั่นเอง แนะนำเป็นความรู้รอบตัวเนอะ ^ ^) Dr. Lamb เรื่องราวของการตามล่าตัวฆาตกรต่อเนื่องสุดเหี้ยมโหด ที่ลงมือฆ่าข่มขืนหญิงสาวเป็นจำนวนมากและหั่นศพพวกเธอเป็นชิ้นๆแล้วโยนทิ้งแม่น้ำ ผู้ต้องสงสัยคือ ลัมกอยู (ลัม-กอ-ยู) โชเฟอร์ขับแท๊กซี่คนหนึ่ง ซึ่งตำรวจพบร่องรอยแล้วหลักฐานเป็นจำนวนมากที่สาวมาถึงตัวเขา ขาดก็เพียงแต่คำรับสารภาพของตัวฆาตกร ลัมกอยูนั้นภายนอกเขาดูเหมือนโชเฟอร์ขับแท๊กซี่ทั่วไป ไม่ค่อยพูด ขยันและตั้งใจทำงาน แต่ในอีกบุคลิกหนึ่ง เขาก็คือฆาตกรต่อเนื่องที่ลงมือฆ่าข่มขืนหญิงสาวเป็นจำนวนมาก และชอบติต่างว่าตัวเองคือหมอ ทุกๆครั้งที่เขาเสร็จภารกิจกับพวกเธอ ลัมกอยูจะลงมือชำแหละเหยื่อเป็นชิ้นๆด้วยมือของตัวเอง และตัดเต้านมของเหยื่อเก็บเอาไว้สะสม ส่วนศพก็จะนำใส่ถุงและขับรถไปโยนทิ้งแม่น้ำ สิ่งที่ลัมกอยูทำลงไปนั้นถือว่าเป็นความน่ากลัวของมนุษย์ที่สุดแสนจะน่าสะพรึง เพราะต่อจากนี้ไปคือคำรับสารภาพของเขา ว่าเขาทำอะไรกับพวกเธอบ้าง ก่อนที่จะถูกตำรวจจับตัวได้
ระดับของเนื้อหา 3 ดาว เนื้อเรื่องจะเล่าไปถึงการจับกุมตัวของลัมกอยูได้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ติดที่ว่าเขาไม่ยอมรับสารภาพสักที พวกตำรวจจึงทรมานเขาด้วยวิธีการต่างๆนาๆ จนในที่สุดเขาก็ยอมเปิดปากพูดและอธิบายเรื่องราวทั้งหมด ไล่ไปตั้งแต่การรับเหยื่อแต่ละคน วิธีลงมือฆ่าและจัดการกับศพ รวมไปถึงบอกที่ซ่อนของสิ่งที่เขาเก็บสะสมเอาไว้ ง่ายๆสั้นๆ มันโครตจิตเลยครับพี่น้อง - -''
ระดับความสยอง 5 ดาวเต็ม ไม่แรง ไม่โป๊ ไม่ดิบ ไม่ใช่หนังเกรดสามครับ 3 อย่างที่ว่ามาข้างต้น ในหนังเรื่องนี้มีอยู่ครบทุกประการ มีฉากฆ่าแบบจิตๆ ฉากหั่นศพ ข่มขืน ถึงแม้หนังจะแอบใส่มุขตลกสอดแทรกมาเป็นพักๆ ตามสไตล์หนังจากประเทศฮ่องกง แต่ก็ไม่ได้ช่วยลดดีกรีความรุนแรงของมันได้เลยแม้แต่น้อย ไม่เหมาะกับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยเด็ดขาด
ระดับความน่าดู 5 ดาวเต็ม เป็นหนังแจ้งเกิดดาราชั้นนำของฮ่องกงอย่าง เยิ่นต๊ะหัว ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็รับบทแสดงนำมาหลายเรื่องพอสมควร แต่ทว่าคนก็ยังไม่จดจำเท่ากับการได้รับบทเป็นลัมกอยูหรือด็อกเตอร์แลมป์ในหนังเรื่องนี้ หนังจัดอยู่ในระดับเดียวกับหนังสยองขวัญในตำนานของฮ่องกงอย่างซาลาเปาเนื้อคน (ในบล็อคมีรีวิวพร้อมตัวหนังซับไทย) ตัวหนังฉบับเต็มไม่เซ็นไม่ตัดก็ถือว่าหาดูหาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน (แน่นอนว่าบล็อคเรามีอยู่แล้ว) ใครที่ตามหนังสยองขวัญเกรดสามของฮ่องกงอยู่ไม่ควรพลาดครับ
ตัวหนังนะครับ ^ ^
Dr. Lamb 1992 ด็อกเตอร์แลมป์
Review : Hellevator 2004 ลิฟท์นรก คืนคลั่ง
ในโลกอนาคตที่ทุกอย่างสิ้นสูญ...ยังคงมีเมืองเล็กๆที่ตกอยู่ใต้ความมืดและสิ่งชั่วร้าย อาชญากรรมมีกันอยู่ทั่วเต็มไปหมด เหล้าและบุหรี่ถือเป็นของผิดกฏหมายร้ายแรง Hellevator เรื่องราวของนักเรียนสาว ฟูจิซากิ ที่กำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากเลิกเรียน ระหว่างทางเธอแอบซื้อบุหรี่จากข้างทางมาเพื่อสูบพักสมอง จากเรื่องราวเครียดๆที่ได้พานพบมาทั้งวัน แต่แล้วเธอกลับถูกตำรวจพบและเข้าจับกุม ทำให้ฟูจิซากิต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในลิฟท์ พาหนะขนส่งผู้คนแห่งเดียวที่ผู้คนมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาใช้มากมายในแต่ละวัน ที่ในลิฟท์นั้นเองฟูจิซากิต้องพบปะผู้คนมากมายและหลากหลายอาชีพ ทั้งคนงานก่อสร้าง นักธุรกิจ นักเรียนหรือแม้แต่นักโทษ...ขณะที่ลิฟท์กำลังเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆผ่านไปในแต่ละชั้น ฟูจิซากิเด็กสาวนักเรียนผู้ซึ่งมีพลังจิตแอบแฝง พลังจิตที่ใช้ในการอ่านจิตใจของคน เธอเริ่มใช้มันอ่านจิตใจของผู้คนมากหน้าหลายตาที่เข้ามาใช้บริการภายในลิฟท์ตัวนี้ จนกระทั่งลิฟท์มาหยุดลงที่ชั้น 99 ซึ่งมีผู้คุมและนักโทษอุกฉกรรจ์ 2 คนเดินก้าวเข้ามา พวกเขากำลังเดินทางไปยังชั้นนักโทษพิเศษ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อลิฟท์หยุดตัวลงและนักโทษทั้ง 2 คนหลุดพ้นจากพันธนาการออกมาได้ พวกมันเริ่มแสดงความอำมหิตทันที ผู้คนต่างพากันเริ่มหวาดกลัว ไม่เว้นแม้แต่ฟูจิซากิ ซึ่งเธอได้เผลอไปอ่านจิตใจของพวกมันเข้าให้แล้ว...2 นักโทษที่ถูกจับกุมในข้อหาข่มขืนและฆ่าผู้คนมากมาย อีกทั้งยังชอบกินเนื้อเหยื่อเหล่านั้นอีกด้วย พวกมันกำลังหย่ามใจที่จัดการผู้คุมไปเรียบร้อยแล้ว ในลิฟท์ก็เหลือเพียงบริกรสาวสวยผู้ซึ่งคอยปิดเปิดลิฟท์ เด็กนักเรียนสาว นักธุรกิจ แม่และเด็กทารก แต่พวกมันกำลังคิดผิด...เพราะนอกจากพวกมันแล้ว ยังมีสิ่งที่ดำมืดมากกว่า เลวร้ายยิ่งกว่า ได้เดินทางมากับลิฟท์ตัวนี้ด้วย และกำลังจะเปลี่ยนลิฟท์แห่งนี้เป็นโศกนาฎกรรมนองเลือดในอีกไม่ช้า
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว เป็นหนังสยองขวัญจากประเทศญี่ปุ่นที่มาในแนว Cyberpunk (อธิบายคร่าวๆก็คือเป็นเรื่องราวของโลกอนาคตและเทคโนโลยี แต่มาในรูปแบบของความตกต่ำและดำมืด) ใช้ตัวนำเป็นสาวน้อยไร้เดียงสาแต่เต็มไปด้วยความลึกลับมากมาย หนังพูดถึงเกี่ยวกับความดำมืดในจิตใจของคนเป็นหลัก ซึ่งหากมองเผินๆแล้ว 2 นักโทษอาจจะดูชั่วร้ายที่สุด แต่หากมองกันให้ลึกถึงเนื้อใน เราก็จะพบว่ายังมีอีกหลายคนที่เลวร้ายไม่ต่างกันและบางทีอาจจะเลวร้ายกว่าด้วยซ้ำไป
ระดับความสยอง 4 ดาว ไม่เชิงโหดแบบสุดๆแต่ก็เต็มไปด้วยความจิตวิปลาสของตัวละครแต่ละคน ซึ่งเรียกได้ว่าเข้าขั้นเสียสติ แต่ละคนแต่ละบุคคลิกก็มีความน่ากลัวแอบแฝงอยู่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะนักโทษฆ่าข่มขืนนั้น แค่เปิดตัวมาฉากแรกก็ต้องหวาดแล้วล่ะครับ (ดูหน้ามันสิ - -'') นี่ยังไม่นับรวมฟูจิซากิเข้าไปด้วยอีกคน กะแล้วเชียวว่ามันต้องเป็นแบบนี้...
ระดับความน่าดู 3 ดาว เป็นหนังสยองขวัญหาดูยากเฉพาะกลุ่มเฉพาะแนวแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน จะว่ามันคือหนังสยองขวัญอินดี้ก็คงไม่ผิดนัก (อินดี้ในที่นี้ให้คิดถึง Red Room ไม่ก็ Death Tube จากประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน ในบล็อกมีรีวิวแล้วด้วย) สำหรับคนที่ชอบอะไรแนวๆนี้อยู่แล้ว ก็คงชอบได้ไม่ยาก แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยผ่านสายตามาเท่าไหร่ หนังมันก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ใช่ไม่ดีแต่ก็ไม่เลิศเล่ออะไรมากนัก
ตัวหนังนะครับ ^ ^ ซับอังกฤษ
Hellevator 2004 ลิฟท์นรก คืนคลั่ง
วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Bad Guy 2001 โคตรเลวในดวงใจ
ภาพยนต์ดราม่าโรแมนติกโครตจิตตกจากประเทศเกาหลี ที่จะฉีกทุกความคิดและความรู้สึกของคนดูออกเป็นชิ้นๆ กับความรักที่วิปลาสสุดขั้วและป่วยจิตแบบเต็มพิกัด Bad Guy เรื่องราวของนักศึกษาสาวสวย ซันวา ที่กำลังถูกเฝ้ามองทุกการกระทำของเธออยู่ห่างๆ จากชายหนุ่มลึกลับที่หมายจะครอบครองหัวใจเธอ ฮังกิ แต่ด้วยสภาพการณ์ที่แตกต่างกันเกินไป ซันวาเหมือนนางฟ้าที่อยู่สูงและมีแฟน ส่วนฮังกินั้นเป็นคนมีแต่ตัวและสภาพดูเลวร้ายซะเต็มประดา แต่แล้วจู่ๆขณะที่ซันวากำลังเดินควงคู่กับแฟนของเธออยู่นั้นเอง จู่ๆฮังกิก็พุ่งพรวดเขาไปคว้าตัวเธอมาแล้วจูบปากอย่างดูดดื่ม ท่ามกลางสายตาสาธารณชนและแฟนของเธอ (ฉากนี้เล่นเอาอึ้งไปเลย - -'') ต่อมาฮังกิถูกซ้อมและถูกจับตัวให้มาขอโทษซันวา เขาไม่ยอมปริปาก...ซันวาจึงถ่มน้ำลายรดหน้าฮังกิเข้าอย่างจัง และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล...เมื่อซันวาถูกจับได้ว่าเธอเป็นคนขโมยกระเป๋าเงินของนักธุรกิจมา ทำให้เธอต้องเป็นหนี้และหาเงินมาชดใช้ เพื่อแลกกับการที่เธอจะไม่ถูกจับและเสียอนาคต แต่ว่าก่อนหน้านั้นซันวาจำเป็นต้องเอาตัวเองค้ำประกัน เพื่อยืนยันว่าเธอจะหาเงินจำนวนนั้นมาใช้ได้ทันเวลา แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่นักศึกษาอย่างซันวาจะหาเงินมาได้ เธอถูกขายตัวไปยังซ่องโสเภณี ที่นั่นซันวาต้องถูกข่มขืนซ้ำไปซ้ำมาจากแขกผู้ใช้บริการ ถูกพรากพรหมจรรย์ให้กับชายแปลกหน้าที่เธอไม่ได้รักและไม่รู้จักกันมาก่อน ทุกๆการกระทำของซันวาถูกเฝ้ามองจากฮังกิตลอดเวลา เพราะเขาคือผู้ชายที่เป็นแมงดาคุมซ่องนี้อยู่ ที่หนักกว่านั้นก็คือทั้งหมดนี้เป็นแผนการของเขาเอง...และเมื่อซันวารู้ความจริงทั้งหมด เธอแทบคลั่งและอยากจะฆ่าฮังกิให้ตายคามือ ไม่ว่าเธอจะพยายามจะหนีไปให้พ้นจากซ่องนรกนี่เท่าไหร่ ฮังกิจะตามกลับไปลากตัวเธอมาอยู่ดี จากความขมขื่นเริ่มกลายเป็นความชินชา...จากความแค้นที่สุมอยู่ในอกก็กลายเป็นความรู้สึกผูกพันธ์แบบแปลกประหลาด ทั้งๆที่รู้ว่าทั้งหมดที่ชีวิตของซันวาต้องเจอเป็นเพราะฮังกิ แต่วินาทีนี้เธอกลับรู้สึกว่าขาดเขาไม่ได้...
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว โอ๊ยย...รู้สึกจิตตกจนไม่รู้จะอธิบายยังไง มันเป็นความรักที่ไม่ถึงกับสุข...เป็นความทุกข์ที่ไม่ถึงกับเศร้า...เป็นความรักที่มีทั้งซึ้งและเหงาอยู่ด้วยกัน จะมีหนังสักกี่เรื่องที่พระเอกจะปล่อยให้นางเอกถูกผู้ชายเรียงคิวข่มขืนต่อหน้าต่อตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะมีสักกี่ความรักที่เกิดจากการเจ็บปวดทรมานภายในใจและแปรเปลี่ยนเป็นรัก เป็นความเฉพาะตัวของหนังเรื่องนี้ ที่อยากจะหาคำมาอธิบายได้จริงๆ ดูแล้วหน่วงในตับและซึมลึกไปถึงหัวใจ
ระดับความสยอง 5 ดาวเต็ม ไม่ใช่แค่แรงอย่างเดียว แต่โหดร้ายในความรู้สึกสุดๆ ในเวอร์ชั่น Uncut ไม่ตัดไม่เซ็น เราจะได้เห็นภาพนางเอกถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่ปราณี ถึงแม้เธอจะอ้อนวอนก้มลงกราบขอขนาดไหนก็ตาม เราจะได้เห็นเพื่อนๆและลูกน้องของพระเอกพากันเวียนเทียนรุมใช้บริการจากนางเอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งหมดที่พูดมาฮังกิมองดูซันวาถูกกระทำอย่างนั้นตลอดเวลา ผ่านกระจกสองด้านที่ซุกซ่อนอยู่ในห้องนอนของเธอ หรือนี่จะเป็นวิธีที่จะดึงนางฟ้าลงมาดินของฮังกิ...หรือเป็นเพียงแค่การแก้แค้นจากชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ระดับความน่าดู 4 ดาว ตัวหนังมีอะไรมากกว่าที่คิดไว้เยอะพอสมควรครับ ถึงแม้การกระทำของฮังกิจะเลวระยำแบบสุดโต่งขนาดไหนก็ตาม แต่ก็แฝงไปด้วยแง่คิดและความเป็นลูกผู้ชายด้วย บางครั้งบางทีเขาก็แอบช่วยซันวาเป็นระยะๆ ซันวาเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีเลิศอะไรขนาดนั้น ก่อนหน้านี้เธอทั้งยิ่งผยอง จองหองและดูถูกคน การที่ทั้งคู่ได้พบกัน จึงเป็นเหมือนการชำระล้างจิตใจที่โสมมของแต่ละคนออกไป ฮังกิก็ทิ้งความเป็นนักเลงเป็นคนชั่ว ซันวาก็ทิ้งความเย่อหยิ่งจองหองและมองคนลึกซึ้งกว่าเดิม เป็นหนังดราม่าโรแมนติกที่สุดแรงและไม่ใช่ทุกคนที่ดูมันได้แน่นอน
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พากย์ไทย
Bad Guy 2001 โคตรเลวในดวงใจ
วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : 3096 Days 2013 ขังลืม 3096 วัน
จากเรื่องจริงของชีวิต นาตาชา แคมพุช เด็กสาวชาวออสเตรียที่ถูกชายหนุ่มโรคจิตจับตัวไปขณะที่เธออายุเพียง 10 ขวบ เป็นเวลากว่า 3096 วันหรือประมาณ 8 ปี ที่เธอถูกขังไว้ใต้ถุนบ้านของมันและถูกเลี้ยงดูอย่างทาสผู้ซื่อสัตย์ ถูกซ้อมถูกทำร้ายข่มขืนและปล่อยให้อดอาหาร ช่วงเวลาเกือบทศวรรษที่เธอถูกขังและถูกกดขี่ข่มเหงสารพัดจากชายแปลกหน้าโรคจิต จนในที่สุดเธอก็หาโอกาสหลบหนีออกมาได้และนี่คือเรื่องราวของเธอ 3096 Days ในเช้าวันหนึ่งที่เหมือนจะปกติเช่นทุกๆวัน หนูน้อยนาตาชาและแม่ของเธอได้ทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆก่อนออกจากบ้าน ผลก็คือนาตาชาต้องเดินไปโรงเรียนเอง ทั้งๆที่ทุกวันแม่ของเธอจะไปส่งถึงหน้าโรงเรียน ผลที่ตามมาก็คือนาตาชาถูกลักพาตัวหายไป โดยชายหนุ่มโรคจิตคนหนึ่งที่มีอาการประสาทและเก็บกด มันขังนาตาชาไว้ที่ใต้ถุนของโรงรถและบังคับให้เธอทำตามที่มันสั่งทุกอย่าง มิฉะนั้นนาตาชาจะถูกทำร้ายทรมานและถูกฆ่าในที่สุด เด็กน้อยใสซื่อวัยเพียงแค่ 10 ขวบ ถูกจับขังในห้องเล็กๆแคบๆเพียง 4X6 ก้าวเดิน โดยที่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น มีเพียงก็อกน้ำปะปาที่เธอเอาไว้ใช้ดื่มประทังชีวิต ในคราวที่มันลงโทษให้เธอต้องอดอาหาร หลายปีผ่านไปนาตาชาที่ต้องทุกทรมานอยู่กับสภาพแบบนั้นมานาน ร่างกายเธอเริ่มซูบผอมเหลือแต่โครงกระดูกไร้เรี่ยวแรง สิ่งเดียวที่ทำให้นาตาชามีชีวิตรอดได้มาจนถึงวันนี้ ก็คงเป็นเพราะเธอพยายามทำตัวเป็นเด็กดีและเชื่อฟังที่มันบอกทุกอย่าง มิฉะนั้นเธอก็คงตายไปนานแล้ว พอเธอเริ่มโต นาตาชาก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือบำเรอความใคร่อยู่เสมอๆ เวลาผ่านไปนานถึง 3096 วัน กว่าที่นาตาชาจะหาช่องทางหลุดพ้นมาจากเงื้อมือของมันมาได้และกลับสู่อ้อมอกของครอบครัวอีกครั้ง...
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว 2 มีนาคม ปี 1998 ตำรวจได้รับแจ้งความถึงการหายตัวไปของเด็กสาว นาตาชา แคมพุช ระหว่างที่เธอเดินเท้าไปโรงเรียน ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าเธอถูกพาตัวขึ้นรถตู้สีขาวคันหนึ่งที่ติดฟิล์มสีดำรอบคัน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้พบเห็นเธออีกเลย เป็นเวลากว่า 3096 วัน ในวันที่ 23 สิงหาคม ปี 2006 ในที่สุดตำรวจก็พบเธอในสภาพร่างกายที่สุดโทรม นาตาชาเด็กสาววัย 18 เธอน้ำหนักเพียง 48 กิโล ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 3 กิโล จากเมื่อ 8 ปีที่แล้ว นั่นบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าตลอดเวลาที่เธอหายไป เธอต้องผจญกับนรกและทุกทรมานอดอยากขนาดไหน เรื่องราวของเธอถูกนำมาเขียนเป็นหนังสือในชื่อเรื่อง 3096 Days และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ในที่สุด
ระดับความสยอง 3 ดาว หนังไม่ได้ขายที่ความระทึกขวัญหรือโหดสยองอะไรมากนัก แต่เน้นไปที่ความดราม่ารันทดปนขมขื่นของชีวิตเด็กสาวอย่างนาตาชา ที่ถูกทรมานทรกรรมสารพัดเสียยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น หลายต่อหลายครั้งที่เธอพยายามคิดหนีแต่ก็ไปไม่รอด เธอถูกจับกลับมาและถูกทำร้ายหนักกว่าเดิม การปล่อยให้เด็กต้องอดอาหารติดต่อกันหลายๆวัน การถูกซ้อมทำร้ายตบตีและถูกข่มขืนจนนับไม่ถ้วน เป็นความทุกทรมานเสียยิ่งกว่าตายทั้งเป็นซะอีก
ระดับความน่าดู 4 ดาว ภายหลังที่นาตาชาได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจและกลับคืนสู่ครอบครัว นาตาชาได้พาตำรวจไปยังบ้านชายหนุ่มโรคจิตที่เป็นคนจับตัวเธอมา ต่อมาทราบชื่อว่าคือนาย โวล์ฟกัง พริกโกพิล ซึ่งหลังจากที่นาตาชาหนีออกมาได้สำเร็จ เขาก็ชิงฆ่าตัวตายหนีความผิดไปซะก่อนที่พวกตำรวจจะมาถึง เป็นการปิดโศกนาฏกรรมที่มีมาอย่างยาวนานถึง 8 ปีเต็ม ตัวหนังก็ถือว่าทำออกมาได้ตรงกับเรื่องราวของเธอเป๊ะๆ อาจไม่ได้ระทึกขวัญอะไรมากมาย เนื่องจากเป็นเรื่องจริงของชีวิตคนจริงๆ ไม่ได้ใส่สีตีไข่อะไรมากนัก แต่เท่าที่ฟังดูแล้ว แค่นี้ก็ทำเอาหลายคนสลดหดหู่มากพอแล้วล่ะครับ
![]() |
| ภาพ นาตาชา แคมพุช ในวัย 25 ปี กับ โวล์ฟกัง พริกโกพิล ชายโรคจิตที่ลักพาตัวเธอไป |
![]() |
| ภาพทางลงบันไดที่เชื่อมต่อกับใต้ถุนของโรงรถและห้องที่ขังนาตาชามานานกว่า 8 ปี |
"หลายต่อหลายครั้งที่ฉันพยายามฆ่าตัวตาย...แต่มันไม่สำเร็จ...อาจเป็นเพราะใจฉันไม่เข้มพอหรือเขามาขัดขวางก็ตามที...สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือครอบครัว...นี่อาจเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดที่ฟ้าประทานมาให้ฉัน...เพื่อมีกำลังจะอยู่สู้ในวันต่อๆไป"
คนเรามีท้อ มีถอย มีเหนื่อย มีบ้างในบางครั้ง แต่อย่าเลย อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย เพราะถ้าคนอื่นทำร้ายเราหนักแล้ว เราจะยังซ้ำเติมตัวเองอีกหรอ ชีวิตก็เป็นแบบนี้ ไม่มีวันที่ฝนตกฟ้าครึ้มตลอดไป สักวันจะต้องมีวันสดใสรอคอยอยู่แน่นอน หากเรายังคงสู้และมีชีวิตอยู่ต่อไป ^ ^ ฝากไว้เท่านี้เนอะ
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พร้อมซับไทย
3096 Days 2013 ขังลืม 3096 วัน
วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Donnie Darko 2001 ดอนนี่ ดาร์โก (คุณขอมา)
สุดยอดหนังไซไฟลึกลับจิตวิทยาที่ติดอันดับหนึ่งในหนังที่ดูแล้วเข้าใจยากที่สุดตลอดกาล (ไม่แน่ใจว่าชมหรือด่ากันแน่ - -'') ส่วนผสมของโลกแห่งความจริงปะปนกับโลกแห่งความฝันและจินตนาการ หนังไซไฟลึกลับจิตวิทยาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยปริศนาและปรัชญาการใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง (เริ่มงงแล้วสิ...ยังก่อน...นี่แค่น้ำจิ้ม) Donnie Darko เรื่องราวของเด็กหนุ่มวัยรุ่นทรงเสน่ห์แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความลึกลับ ดอนนี่ ดาร์โก เขาป่วยเป็นโรคจิตอ่อนๆในแบบที่พอจะเยียวยาได้โดยการรักษา ทุกๆวันดอนนี่จะต้องกินยาระงับประสาทเพื่อที่เขาจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วๆไป ไปโรงเรียน กินข้าว อยู่กับครอบครัว แต่แล้ววันหนึ่งดอนนี่ก็หยุดกินยาระงับประสาทที่ว่านั่น หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเห็นภาพหลอน...ดอนนี่เริ่มมองเห็นเพื่อนในจินตนาการของตัวเอง เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนกระต่ายร่างยักษ์สูง 6 ฟุตที่ชื่อว่า แฟรงค์ วันหนึ่งแฟรงค์พาดอนนี่ออกจากห้องนอนของเขาเอง เพราะว่าแฟรงค์รู้ว่ากำลังจะมีเศษซากเครื่องบินหล่นลงมาใส่ที่ห้องนอนดอนนี่พอดีและก็เป็นจริงตามนั้น มีเศษซากเครื่องบินหล่นลงมาจากฟ้าจริงๆด้วย ถ้าหากดอนนี่อยู่เขาก็คงตายไปแล้ว นั่นเท่ากับว่าแฟรงค์รับรู้ถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น...แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อแฟรงค์เริ่มบอกบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าให้ดอนนี่ฟัง แฟรงค์บอกดอนนี่เกี่ยวกับจุดจบของโลกและทุกสรรพสิ่งจะต้องตาย ดอนนี่เริ่มรู้สึกแล้วว่าสิ่งที่แฟรงค์เล่าให้ฟังนั้นอาจจะเกิดขึ้นจริง...ในทางกลับกันหรือทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงแค่เหตุบังเอิญ หรือดอนนี่แค่หลอนไปเองเพราะไม่ได้กินยาระงับประสาท แฟรงค์อาจไม่มีอยู่จริงและทั้งหมดคือภาพหลอนที่ดอนนี่จินตนาการขึ้นเอง...
ระดับของเนื้อหา 5 ดาวเต็ม ตัวหนังมีส่วนผสมของความลึกลับปนกับปรัชญาและเรื่องราวของศาสนา รวมไปถึงยังเสียดสีสังคมขนบธรรมเนียมต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องราวของเด็กและผู้ใหญ่(บางคน) ที่มองว่าทุกๆอย่างที่เขาพูดหรือคิดเท่ากับความถูกต้อง ตัวหนังเลยจัดการให้ดอนนี่เป็นตัวแสดงออกถึงความสุดโต่งของเด็กๆ ที่ลุกขึ้นมารุนแรงและต่อต้าน ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้อง แต่มันก็โดนใจ ชนิดที่ไม่ว่าผู้ใหญ่คนไหนก็ตามที่โดนดอนนี่ตอกกลับ ก็เล่นเอาเงียบไปเลย ไม่ใช่ว่าเถียงสู้ไม่ได้นะครับ แต่เหตุผลของดอนนี่มีมากกว่าพวกเขาซะอีก เนื้อเรื่องมีความซับซ้อนและต้องใช้การตีความค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงมีบางคนถึงกับไม่ชอบหนังเรื่องนี้มากๆเลยทีเดียว เพราะหนังมันไม่ได้สนุกอย่างที่คิด แต่ลึกซึ้งและเต็มเปี่ยมไปด้วยปริศนา
ระดับความสยอง 3 ดาว แกนหลักของหนังจะพูดถึงเรื่องราวของการล่วงรู้อนาคตของแฟรงค์และดอนนี่ หรือเอาที่เข้าใจง่ายๆเลยก็คือการเดินทางข้ามกาลเวลา (Time Travel) ของแฟรงค์และดอนนี่ พวกเขาล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต (ในที่นี้หมายถึงวันสิ้นโลก) และคิดที่จะเปลี่ยนแปลงมัน หนังเต็มไปด้วยปริศนาที่ชวนฉงนมากมาย บางอย่างก็พอทำความเข้าใจได้ แต่บางอย่างก็ถูกปิดปิดเป็นความลับเอาไว้ ให้คนดูได้ไปคิดต่อเอาเอง อารมณ์ก็คงประมาณว่าหนังจบอารมณ์ไม่จบประมาณนั้น
ระดับความน่าดู 4 ดาว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงถูกจัดอันดับให้มันติดอยู่ในหนังที่ดูเข้าใจยากที่สุดตลอดกาล นอกจากเรื่องราวที่ชวนให้งงมากมายแล้ว ตัวหนังยังเต็มเปี่ยมไปด้วยปริศนาที่ต้องทำความเข้าใจ อีกทั้งยังมีเรื่องราวของการย้อนเวลา ศาสนาและการดำเนินชีวิต สารพัดเรื่องราวที่อัดแน่นอยู่ในเรื่องเดียว อ่านรีวิวแล้วอาจจะงงว่าหนังมันสยองบรรทัดไหน ? คำตอบที่ดีที่สุดก็คงต้องเป็นการพิสูจน์ดูเองครับ
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พร้อมซับไทย
Donnie Darko 2001 ดอนนี่ ดาร์โก
Review : Secret Window 2004 หน้าต่างหลอน อำมหิต
จากผลงานปลายปากกาของสตีเฟ่น คิง นำไปสู่เรื่องราวของความหลอนทางจิตสุดคาดเดา Secret Window เรื่องราวของนักเขียนนวนิยาย มอร์ท เรนนี่ย์ ที่กำลังจะหย่าขาดจากเมียและหมดไอเดียในการเขียนงาน เขาพาตัวเองไปหลบพักสมองในบ้านต่างอากาศของเขาเอง เพื่อหวังจะพบกับแรงบันดาลใจดีๆในการเขียนงานต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่งเรนนี่ย์ถูกรบกวนเวลาโดยชายแปลกหน้าที่ชื่อว่า จอห์น ชู้ตเตอร์ เขาอ้างว่าเรนนี่ย์กำลังก๊อปปี้ผลงานการเขียนของเขาไป ผลงานที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ต่างซะตรงที่ว่าตอนจบไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ชู้ตเตอร์พยายามขอร้องให้เรนนี่ย์เปลี่ยนตอนจบให้ตรงกับต้นฉบับของเขา (เหมือนกับการให้เครดิตผลงานต้นฉบับ) แต่เรนนี่ย์กลับเพิกเฉยเพราะเขามั่นใจว่าผลงานชิ้นนี้เขาไม่ได้ลอกเลียนของใครมา ชู้ตเตอร์จึงข่มขู่เรนนี่ย์และบอกว่าเขาจะไม่เลิกราจนกว่าเรนนี่ย์จะยอมเปลี่ยนตอนจบให้เขา การข่มขู่คุกคามที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรและเรนนี่ย์ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก กลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตบานปลาย เมื่อหมาสุดที่รักเรนนี่ย์ถูกชู้ตเตอร์ฆ่าตายและเรนนี่ย์กำลังรู้สึกว่าตัวเองถูกใครบางคนเฝ้ามองตลอดเวลา วินาทีนั้นเองเรนนี่ย์รู้สึกตัวแล้วว่าชู้ตเตอร์เอาจริงและเอาถึงตายด้วย หากเรนนี่ย์ดื้อดึงไม่ยอมเปลี่ยนตอนจบให้เขา เรนนี่ย์จึงยื่นข้อเสนอให้กับชู้ตเตอร์ว่า หากเขาหาหลักฐานมาได้ว่าผลงานชิ้นนี้ถูกเขียนขึ้นมาก่อนผลงานของชู้ตเตอร์ ชู้ตเตอร์จะต้องยอมเลิกราวีเรนนี่ย์โดยสิ้นเชิง กลับกันหากเรนนี่ย์หาหลักฐานไม่ได้เขาจะยอมเปลี่ยนตอนจบให้ตามที่ชู้ตเตอร์ต้องการ ขณะเดียวกันเรนนี่ย์ก็เริ่มจ้างวานนักสืบให้สะกดรอยชู้ตเตอร์ ว่าแท้ที่จริงแล้วผู้ชายคนนี้คือใครกันแน่ ไปพร้อมๆกับการหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าผลงานของเขาเขียนขึ้นมาก่อนชู้ตเตอร์จริงๆ แต่ยิ่งเรนนี่ย์เข้าใกล้ความจริงมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งค้นพบความจริงที่ชวนสะพรึงเกี่ยวกับชายที่ชื่อว่าชู้ตเตอร์มากเท่านั้น...
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว หนังสร้างจากนวนิยายของคิงที่ชื่อว่า Secret Window, Secret Garden ที่ขอบอกว่าเป็นอีกเรื่องที่ทำออกมาได้อย่างไม่เสียของ ตัวหนังมีความลึกลับน่าติดตาม ไปพร้อมๆกับการค้นหาความจริงของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งในตอนจบที่เฉลยทุกๆอย่างก็เล่นเอาหลอนสะพรึงได้ถึงขั้นเหมือนกัน
ระดับความสยอง 3 ดาว หนังเน้นไปที่เรื่องราวและบรรยากาศมากกว่าความโหดแหวะสยองขวัญ แต่ก็ไม่ได้มีความน่าเบื่อแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังบีบอารมณ์และกดดันไปกับการกระทำของชู้ตเตอร์ที่ทำต่อเรนนี่ย์ ความลึกลับของหนังก็ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ เป็นหนังลึกลับระทึกขวัญปนจิตวิทยาที่ทำออกมาได้อย่างลงตัวกลมกล่อม
ระดับความน่าดู 4 ดาว จะว่าไปหนังเรื่องนี้ก็คือส่วนผสมผลงานของคิงระหว่าง Misery กับ The Shining เข้าด้วยกันแล้วกับผนวกด้วยเรื่องราวของผลงานอื่นๆอีกเล็กๆน้อยๆของเขา ซึ่งว่าด้วยเรื่องของนักเขียนนวนิยายและการเปลี่ยนตอนจบ (คล้าย Misery) รวมไปถึงความจิตของตัวละครที่ถูกคุกคาม (คล้าย The Shining) จนในที่สุดก็นำพาเขาเข้าสู่โหมดความจริงที่สุดสะพรึง (คล้ายกับผลงานหลายๆเรื่องของคิง) ถึงแม้ว่าหนังจะทำออกมาได้ไม่สุดยอดในระดับเรื่องที่ว่ามาข้างต้น แต่ก็ถือได้ว่าดีในระดับหนึ่งและไม่เสียของแต่อย่างใด เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังแนวระทึกขวัญปนจิตวิทยาและคนที่ติดตามผลงานของคิง
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พากย์ไทย
Secret Window 2004 หน้าต่างหลอน อำมหิต
วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Deep Rising 1998 เลื่้อยทะลวง 20000 โยชน์
อีกหนึ่งสุดยอดหนังสยองขวัญในตำนานและในดวงใจของใครอีกหลายๆคน (10 กว่าปีที่รอภาคต่ออย่างใจจดใจจ่อ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มี - -'') Deep Rising เรื่องราวของเรือสำราญขนาดยักษ์อาร์โกนอติก้าที่กำลังล่องอยู่ในทะเลจีนใต้ เพื่อพาบรรดาเหล่าเศรษฐีคนมีอันจะกินทั้งหลายท่องเที่ยวกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่ทว่าเมื่อมาถึงใจกลางมหาสมุทรที่ลึกสุดขั้ว พวกเขากลับถูกโจมตีด้วยสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์จากใต้ท้องทะเล ลูกเรืออาร์โกนอติก้าทั้งลำถูกเขมือบเป็นอาหารภายในพริบตาเดียว...ตัดกลับมาที่เรือเร็วขนส่งสินค้าของจอห์น ฟินนิแกนที่บรรทุกลูกเรือและสินค้ามาเต็มลำ พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังเรือสำราญอาร์โกนอติก้า ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาก็คือการปล้นเงินจากบรรดาเศรษฐีทั้งหมดที่อยู่ภายในเรือลำนี้ แต่ทว่าเมื่อพวกเขาไปถึงที่หมาย กลับไม่พบผู้รอดชีวิตเลยแม่แต่คนเดียว ลูกเรือทั้งลำหายตัวไปกันหมด ทิ้งไว้ซะก็แต่ความว่างเปล่าและเศษซากปรักหักพัง ทั้งหมดจึงต่างพากันแยกย้ายสำรวจบริเวณรอบๆเรืออาร์โกนอติก้า โดยหารู้ไม่ว่าพวกเขาเองก็กำลังจะโดนเล่นงานเช่นเดียวกันกับลูกเรืออาร์โกนอติก้า ที่ทั้งหมดต้องตกเป็นอาหารของสัตว์ประหลาดยักษ์จากใต้ท้องทะเลลึกตัวนี้ จากภารกิจปล้นจึงกลับกลายเป็นการหนีเอาชีวิตรอดแทน ด้วยอาวุธครบมือที่พวกเขาเตรียมมาและห่ากระสุนอย่างไม่มีจำนวนจำกัด ทุกๆอย่างที่มีถูกงัดขึ้นมาใช้ทั้งหมด ถ้าหากพวกเขายังอยากที่จะมีชีวิตรอดต่อไป...
ระดับของเนื้อหา 3 ดาว เป็นหนังแอคชั่นปนสยองขวัญที่เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก แต่กลับมันส์แบบระเบิดเถิดเทิง ความสนุกความสยองไหลมาเรื่อยๆอย่างน่าติดตาม ใช้เรื่องราวของตัวประหลาดใต้ท้องทะเลลึกมาเป็นแกนหลัก ซึ่งสันนิฐานว่าจะเป็นหนอนผสมกับหมึก คงอยู่มาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์และอยู่ลึกไปไกลถึง 20000 โยชน์ (1 โยชน์ = 16 กิโลเมตรครับ แถมให้เป็นความรู้รอบตัว ^ ^)
ระดับความสยอง 4 ดาว ก็โหดแหวะสยองไม่เบาเลยล่ะครับ ยิ่งตัวสัตว์ประหลาดก็ออกแบบมาให้น่ากลัวและเก่งกาจสุดๆ แถมวิธีการกินของมันก็สุดสยองพองขน เขมือบเข้าไปรวดเดียวทั้งตัวเลยครับ แล้วปล่อยให้น้ำย่อยในกระเพาะค่อยๆละลายเหยื่อ จากนั้นก็จะคายซากเศษกระดูกออกมากองทิ้งไว้เป็นภูเขาเลากา แล้วคิดดูลูกเรือสำราญทั้งลำกระดูกจะเยอะขนาดไหนเนี่ย
ระดับความน่าดู 4 ดาว หนังทำมาในสไตล์หนังสัตว์ประหลาดเกรด B แต่ทว่าก็เป็นเกรด B ที่คุณภาพเหลือเกินจริงๆครับ ตัวหนังลงตัวมาก ทั้งความสนุกความระทึกความสยองเรียกได้ว่าขนกันมาหมด ดูแล้วดูอีกก็ยังไม่เบื่อ หนังมีเสน่ห์น่าติดตามและชวนหลงใหลให้คิดถึงมันจนต้องหยิบมาดูอีกเรื่อยๆ เอาเป็นว่าหากใครยังไม่เคยดู แนะนำว่าควรดูครับ ไม่งั้นเสียดายแย่เลย
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พร้อมซับไทย
Deep Rising 1998 เลื่้อยทะลวง 20000 โยชน์
วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Event Horizon 1997 ฝ่านรก สุดขอบฟ้า
ดูจากปกอย่าเข้าใจผิดคิดว่านี่คือหนังแอคชั่นไซไฟอวกาศนะครับ เพราะนี่คือสุดยอดหนังไซไฟสยองขวัญระดับตำนาน ที่กวาดเสียงชมรวมไปถึงคำวิจารณ์มาแล้วทั่วโลก (ซึ่งเป็นหลังจากที่หนังออกฉายและขาดทุนอย่างไม่น่าให้อภัย ด้วยสาเหตุที่คนเข้าใจกันไปเองว่าหนังมันเป็นแอคชั่นไซไฟ - -'') Event Horizon เรื่องราวของยานอวกาศ Event Horizon ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำการทดลองเกี่ยวกับการวาร์ปข้ามกาลเวลา (TimeSpace) ซึ่งเป็นการเปิดอุโมงค์มิติเพื่อเดินทางย่นเวลา จากที่หมายหนึ่งไปอีกที่หมายหนึ่งด้วยความรวดเร็ว แต่ทว่าเกิดเหตุขัดข้องบางอย่างในระหว่างการทดลอง ทำให้ยาน Event Horizon และลูกเรือทั้งหมดสูญหายไประหว่างเดินทาง... 7 ปีต่อมามันถูกพบในพื้นที่บริเวณใกล้ๆดาวพฤหัส ทางการจึงสั่งให้ยานกู้ภัย Lewis and Clark ที่นำโดยกัปตันมิลเลอร์พร้อมลูกเรือ เข้ากู้ยาน Event Horizon เป็นการโดยด่วน ซึ่งในครั้งนี้จะมีด็อกเตอร์วิลเลี่ยม เวียร์ติดตามตามไปด้วย ซึ่งเขาเป็นผู้สร้างยาน Event Horizon และรวมไปถึงออกแบบอุโมงค์วาร์ปข้ามกาลเวลา ในที่สุดทุกๆคนก็เดินทางมาถึงที่หมายและเริ่มปฏิบัติภารกิจสำรวจและกู้ภัยโดยทันที ที่ข้างในยาน Event Horizon พวกเขาไม่พบสิ่งมีชีวิตเหลือรอดแม้แต่คนเดียว ลูกเรือทั้งลำหายสาปสูญไปไหนกันหมด อีกทั้งยังพบบางสิ่งบางอย่างที่ชวนสะพรึงในยานลำนี้มากมาย แท้จริงแล้วตลอดเวลา 7 ปีที่มันหายไป ยาน Event Horizon หายไปอยู่ที่ไหนมากันแน่ และกว่าจะได้คำตอบนั้น กัปตันมิลเลอร์และลูกเรือของเขา รวมไปถึงด็อกเตอร์เวียร์ ต้องเผชิญหน้ากับความตายและความน่ากลัวที่หาคำตอบไม่ได้ของยานลำนี้ อย่างที่ไม่มีใครหนีพ้น...
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว เป็นหนังสยองขวัญที่มีแนวคิดแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร นั่นก็คือมันมีส่วนผสมของความเป็นปรัชญาบวกเข้ากับความเป็นไซไฟสยองขวัญ เอาเรื่องราวของความเชื่อและนรกมาผูกโยงกับมิติเวลาในอวกาศ ฟังดูแล้วอาจงงนิดๆ อธิบายง่ายๆเลยก็คือ ยาน Event Horizon ที่ทำการทดลองเปิดอุโมงค์มิติเพื่อวาร์ปข้ามกาลเวลานั้น แท้จริงแล้วได้วาร์ปหลุดไปยังอีกมิติหนึ่งที่เรียกว่านรกครับ และอีก 7 ปีต่อมา มันได้วาร์ปกลับมาบนโลกมนุษย์ โดยพาวิญญาณมาเต็มลำเลยทีเดียว
ระดับความสยอง 4 ดาว จะบอกว่ามันคือหนังบ้านผีสิงเวอร์ชั่นยานอวกาศก็คงไม่ผิดนัก เพราะว่าตัวหนังเกี่ยวข้องกับเรื่องของวิญญาณและความตายที่วนเวียนรายล้อมอยู่ภายในยานลำนี้ ด้วยบรรยากาศสุดหลอนของยาน Event Horizon (เหมือนยานในหนังเอเลี่ยนเลย ลวดลายอะไรไม่รู้เยอะแยะ จะสร้างไว้ทำไมเนี่ย - -'') รวมไปถึงฉากโหดแหวะของหนังก็มีมากพอสมควร
ระดับความน่าดู 4 ดาว เหมือนๆหนังจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะออกแนวลึกลับอวกาศคล้ายๆหนังเรื่องเอเลี่ยน แต่ช่วงหลังจะเป็นเกี่ยวผีหลอกวิญญาณหลอนและความน่ากลัว แนวคิดเรื่อง Wormhole หรืออุโมงค์ข้ามกาลเวลาก็ดูน่าเชื่อถือและอาจเป็นไปได้ในอนาคต แต่ก็คงติดปัญหาตรงที่ว่า "วาร์ปไปแล้ว มันจะไปอยู่ที่ไหน" ซึ่งหากกำหนดเส้นทางได้ มันก็จะเป็นประโยชน์มากๆ แต่กลับกันหากกำหนดเส้นทางไม่ได้ ไม่แน่มันอาจจะไปโผล่ในมิตินรกอย่างยาน Event Horizon ก็เป็นได้...
![]() |
| ภาพอธิบายเกี่ยวกับการเดินทางข้ามมิติหรืออุโมงค์กาลเวลา Wormhole |
Event Horizon 1997 ฝ่านรก สุดขอบฟ้า
วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Haunter 2013 วิญญาณจองจำ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อตัวคุณเองตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า "วันใหม่ของคุณคือเมื่อวาน" Haunter เรื่องราวที่ว่านั่นเกิดขึ้นกับเด็กสาวน่ารักอย่าง ลิซ่า ที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองใช้ชีวิตวันใหม่ของเธอ เฉกเช่นเดียวกับวันวานและเป็นอย่างนี้ชั่วนิรันดร์ ทุกๆวันลิซ่าจะใช้ชีวิตซ้ำไปซ้ำมา แต่ละวันที่ผ่านไปราวกับว่ามันซ้ำกันเหมือนเดิม ลิซ่าพยายามสาเหตุเพื่ออธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้กับเธอ โดยที่คนอื่นๆในครอบครัวกลับไม่มีใครรู้สึก ว่าพวกเขาใช้ชีวิตซ้ำอยู่กับที่ และ"วันพรุ่งนี้ที่ไม่เคยมาถึง" ลิซ่าพยายามลองออกจากบ้านไปโดยการปั่นจักรยาน แต่สุดท้ายเธอก็ปั่นมาหยุดตรงที่หน้าบ้านของตัวเอง พยายามทดลองด้วยวิธีการต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็นการลองอดหลับอดนอน จนกระทั่งมองเห็นเข็มนาฬิกาหมุนทวนกลับ การติดต่อกับวิญญาณผ่านกระดานผีถ้วยแก้ว แต่สุดท้ายสิ่งที่เธอพบก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้พบกับเด็กสาวอีกคน ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับเธอ คล้ายๆกับว่าเป็นอีกมิติหนึ่ง ซึ่งลิซ่าสามารถมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆได้ เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเข้าด้วยกัน และเริ่มรู้สึกถึงอันตรายอะไรบางอย่าง อันที่จริงลิซ่าอาจจะตายไปแล้วและวิญญาณของเธอยังไม่ไปเกิด เนื่องจากเธอและครอบครัวถูกฆาตกรรมในบ้านหลังนี้ และนี้อาจเป็นคำตอบให้กับเรื่องที่ว่า ทำไมเธอถึงตื่นขึ้นมาในวันเดิมทุกๆวัน หนทางเดียวที่จะหยุดฝันร้ายชั่วชีวิตนี้ได้นั่นคือต้องช่วยเด็กสาวคนนั้นให้รอดชีวิต และจัดการกับฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าเธอและครอบครัวให้ได้ เพื่อเป็นการปลดปล่อยทั้งตัวเธอเองและครอบครัวให้เป็นอิสระ
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว เนื้อเรื่องคล้ายๆกับหนังตลกที่ชื่อว่า Groundhog Day ที่ตัวเอกจะตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองใช้ชีวิตอยู่ในวันเดิมซ้ำๆกันอยู่อย่างนั้น แต่แตกต่างตรงที่เรื่องนี้ทำออกมาเป็นแนวสยองขวัญปนลึกลับและการค้นหาคำตอบที่แท้จริง ว่าทำไมลิซ่าและครอบครัวของเธอถึงมีชีวิตอยู่ถึงแค่วันนี้วันเดียว ทำไมถึงไม่มีวันพรุ่งนี้ ทำไมถึงออกไปจากบ้านไม่ได้ และคำตอบนั้นก็มีอยู่แค่อย่างเดียวครับ นั่นคือเธอและครอบครัวตายไปแล้ว เพราะถูกฆ่ายกครอบครัวและวิญญาณยังไม่สงบสุขเนื่องจากฆาตกรยังลอยนวลอยู่ พวกเขาจึงยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดกันสักที ยังคงใช้ชีวิตในวันเดิมซ้ำๆ ซึ่งเป็นวันก่อนที่พวกเขาจะถูกฆ่านั่นเอง
ระดับความสยอง 3 ดาว กลางๆครับ ไม่ได้เน้นที่ความสยองระทึกอะไรมากมาย เน้นไปที่ปมปริศนาปนเรื่องราวที่ลึกลับชวนหาคำตอบ หนังไม่ได้หักมุมทำให้ลิซ่าเป็นผีแต่อย่างใด แถมยังบอกกันโต่งๆไปเลยอีกด้วยว่าเธอเป็นผี แต่ปัญหาก็คือเธอจะหลุดพ้นจากฝันร้ายนี้ยังไงต่างหาก ซึ่งมันก็ชวนให้คนดูติดตามได้จนจบเรื่องนั่นแหละครับ
ระดับความน่าดู 4 ดาว หนังพูดถึงเรื่องของวิญญาณที่ถูกฆ่าและยังวนเวียนไม่ไปผุดไปเกิด ซึ่งเขาจะเรียกวิญญาณเหล่านี้ว่า Haunter ซึ่งต้องรอจนกว่าจะหมดเวรหมดกรรมหรือหมดห่วงซะก่อน จึงจะสามารถหลุดพ้นไปเกิดได้ โดยรวมแล้ว ดาราน่ารัก ภาพสวย ดูเพลินไม่ต้องคิดอะไรมากครับ แค่เฉพาะที่พูดมาก็ตรึงเอาคนดูไม่ลุกไปไหนแล้ว เรื่องราวก็มีความสลับซับซ้อนพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ดูยากอย่างที่คิด มีแรงดึงดูดและความน่าสนใจอยู่เรื่อยๆ ไม่โหดเลือดสาดสามารถดูได้ทุกคน
ตัวหนังนะครับ ^ ^
Haunter 2013 วิญญาณจองจำ
วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Unholy Women 2006 ผู้หญิง 3 หลอน
Unholy Women ภาพยนต์สั้นสยองขวัญเป็นตอนๆจากประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวเกี่ยวกับปริศนาและความน่ากลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใจของผู้หญิง ซึ่งมาปรากฏกายแสดงออกมาให้เห็นเป็น 3 เรื่อง แต่ละเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป
เรื่องที่ 1 "Rattle Rattle อีสาวชุดแดง" เรื่องราวของ คานาโกะ ผู้หญิงที่เพิ่งจะถูกชายหนุ่มที่รักขอแต่งงาน ระหว่างทางที่เธอเดินกลับบ้าน คานาโกะถูกบางอย่างหล่นใส่หัวเข้าอย่างจัง เธอสลบไปและฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล ต่อมาไม่นานเธอก็รับสายโทรศัพท์จากว่าที่สามีของเธอ เขาเตือนเธอให้ระวังตัวจากอดีตแฟนของเขา ซึ่งพยายามเข้ามามาทำร้ายเขาด้วยมีด เพียงไม่กี่อึดใจต่อจากนั้น...คานาโกะถูกตามเล่นงานจากหญิงสาวปริศนาชุดแดง ซึ่งหมายจะเอาชีวิตของเธอให้ได้และมันจะไม่ยอมหยุดจนกว่าคานาโกะจะตาย
ระดับความสะพรึง 4 กระโหลก น่ากลัว...น่ากลัว...น่ากลัว ไม่ได้มาจากคนไหนเลย อีสาวชุดแดงนี่ล่ะ ที่สุดแห่งความสะพรึงแล้ว
เรื่องที่ 2 " Hagane สาวน้อยถุงกระสอบ" เรื่องราวของ เซคิงูจิ เด็กหนุ่มทำงานประจำที่ตอบตกลงจะไปออกเดทกับน้องสาวของผู้จัดการ แต่เมื่อทั้งคู่ได้พบกัน เซคิงูจิถึงกับต้องหน้าถอดสี เพราะน้องสาวผู้จัดการคนนี้แปลกประหลาดและพิศดารเกินคาด โดยที่ท่อนบนของเธอนั่นถูกคลุมด้วยถุงกระสอบและโผล่มาให้เห็นแต่เรียวขา เซคิงูจิจึงจำใจต้องไปออกเดทด้วยอย่างปฏิเสธไม่ได้ ระหว่างที่เดทเขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า มีอะไรซ่อนอยู่ใต้ถุงกระสอบใบนั้น และนั่นทำให้เขาค้นพบความน่าสะพรึงของเธอ เซคิงูจิพยายามตีตัวออกห่างจากสาวถุงกระสอบ ซึ่งเธอเองก็ตามราวีเขาไม่เลิกรา เพราะหลงรักเซคิงูจิเข้าให้แล้ว ถึงแม้เซคิงูจิจะพยายามฆ่าเธอให้ตาย แต่เธอก็ไม่ตาย มิหนำซ้ำยังโผล่มาเล่นงานเขาอยู่เรื่อยๆ...
ระดับความสะพรึง 4 กระโหลก แปลกประหลาดและชวนสงสัยสุดๆ ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ใต้กระสอบ เป็นความน่ากลัวแบบหลอนๆลึกลับ
เรื่องที่ 3 " The Inheritance มรดกจากบรรพบุรุษ" เรื่องราวของ ซาเอโกะ สาวหม่ายที่เพิ่งแยกทางกับสามี เธอเดินทางกลับมายังบ้านนอกพร้อมกับลูกชายคนเดียวของเธอ เพื่อมาพักกับแม่ซึ่งแก่ชราและอยู่คนเดียวเพียงลำพัง โดยที่เธอเองลืมไปว่าที่บ้านหลังนี้เคยเรื่องเล่าเกี่ยวกับคำสาป ซึ่งเป็นเรื่องเล่าขานกันมาเกี่ยวกับเด็กผู้ชายในครอบครัว ที่จะถูกวิญญาณบรรพบุรุษมาเอาชีวิตไปทุกคน และครั้งนี้คนที่ต้องเผชิญชะตากรรมนั้นก็คือ มิชิโอะ ลูกชายของเธอนั่นเอง
ระดับความสะพรึง 4 กระโหลก หลอน ดราม่า หักมุม สะเทือนขวัญ กับตอนจบที่ทำร้ายจิตใจคนดูสุดๆ
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว หนังว่าเกี่ยวกับสิ่งชั่วร้ายที่ถูกซุกซ่อนหรือบดบังภายใต้จิตใจของผู้หญิง ซึ่งหากมีบางสิ่งบางอย่างหรือบางเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็อาจจะกระตุ้นให้ความชั่วร้ายที่ว่านั้นปรากฏออกมา และยืนยันได้เลยว่า "ผู้หญิง" เป็นอะไรที่น่ากลัวสุดๆ และยิ่งเวลาเธอเครียดเธอแค้น แม่เจ้าประคุณรุนช่อง...เอาอะไรมาฉุดมาหยุด เธอก็ไม่ยอมเลิกรา !
ระดับความสยอง 4 ดาว เป็นมุมมองความน่ากลัวใหม่ๆที่ถูกเนรมิตขึ้นมาแตกต่างกันสุดขั้วในแต่ละตอน เช่นตอนแรกของอีสาวชุดแดง นี่ก็หลอกกันแบบไม่มีหยุดพัก ผีโผล่มาไล่ล่าไล่ฆ่าแบบโครตบ้าคลั่ง ทั้งตกใจทั้งน่ากลัว (แอบไม่เนียนในบางฉาก) ตอนที่สองก็แปลกดี ลึกลับ พิศวง น่าค้นหาคำตอบ ว่ามีอะไรอยู่ในถุงกระสอบ สุดท้ายแม้ตัวหนังจะไม่เฉลย แต่คนดูก็พอเดาได้ว่าอะไรอยู่ในนั้น ตอนสุดท้ายก็หลอนแบบคลาสสิคและเป็นธรรมชาติที่สุด คือเป็นเรื่องเล่าหรือตำนานคำสาปที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงของครอบครัวหนึ่ง ที่ลูกชายทุกคนจะต้องตายหรือไม่ก็หายตัวไป ฉากสุดท้ายเล่นเอาอื้งผวาและขนลุกไปพร้อมๆกัน
ระดับความน่าดู 4 ดาว ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับหนังสยองขวัญเป็นตอนๆเรื่องนี้จากประเทศญี่ปุ่น โดยรวมแล้วมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่บ่งบอกยี่ห้อได้อย่างชัดเจน ว่าหนังสยองขวัญแบบนี้ต้องญี่ปุ่นเท่านั้น ถึงแม้ว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีก็มีออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แต่ทว่าก็คนละแบบกัน ซึ่งเกาหลีจะเน้นไปที่ความโหด ความน่ากลัวและระทึกขวัญ ส่วนญี่ปุ่นนั้นจะออกแนวหลอนๆลึกลับและชวนผวาซะมากกว่า ซึ่งก็แล้วแต่คนชอบ (แต่ผมชอบหมดนะ ขอให้หนังมันดีเถอะ ดูหมด ^ ^)
ตัวหนังนะครับ ^ ^
Unholy Women 2006 ผู้หญิง 3 หลอน
วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Horror Stories 2012 เรื่องเล่า...เขย่าขวัญ
สุดยอดหนังสยองขวัญสั่นประสาทจากประเทศเกาหลี ที่เล่นเอาคนดูทั้งอึ้งและช็อคไปกับเรื่องราวสยองขวัญสุดสะพรึง ที่พาเหรดกันเข้ามาให้รับชมถึง 4 เรื่องราว Horror Stories หนังเริ่มต้นที่ภาพของเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ถูกฆาตกรต่อเนื่องสุดจิตจับตัวไป มันบังคับให้เธอเล่าเรื่องราวสยองขวัญที่สุดในชีวิตของเธอให้มันฟัง และหากเธอทำให้มันพอใจได้ มันก็จะปล่อยเธอเป็นอิสระ
เรื่องที่ 1 ผู้มาเยือนยามวิกาล เป็นเรื่องราวของเด็กน้อยสองพี่น้อง ที่ถูกทิ้งให้อยู่อพาร์ทเม้นท์กันตามลำพัง โดยที่แม่ของพวกเขากำชับว่าอย่าเปิดประตูให้คนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด ความสยองเริ่มต้นขึ้น เมื่อพวกเขาเปิดประตูต้อนรับคนส่งพิซซ่าคนหนึ่ง โดยที่เด็กทั้งสองไม่รู้เลยว่านี่อาจเป็นค่ำคืนสุดท้ายในชีวิตของพวกเขา เมื่อคนส่งพิซซ่าพยายามบุกเข้ามา...และจะจับพวกเขาฆ่าทีละคน
ระดับความสะพรึง 5 กระโหลกเต็ม น่ากลัวโครตๆ หลอนจิต ดูคนเดียวตอนกลางคืนขวัญกระเจิงจริงๆขอบอก
เรื่องที่ 2 เที่ยวสุดท้าย เป็นเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องที่ถูกจับกุมตัวได้หลังจากลงมือฆ่าโหดเหยื่อสาวรายล่าสุด มันถูกพาขึ้นเครื่องบินไปพร้อมกับตำรวจ แอร์โฮสเตสและคนขับเครื่องบิน แต่ระหว่างทางฆาตกรต่อเนื่องกลับหลุดจากที่คุมขัง มันเริ่มลงมือไล่ฆ่าคนบนเครื่องบินทีละคน ไล่ไปตั้งแต่ตำรวจ คนขับเครื่องบิน ไม่เว้นแม้แต่บรรดาแอร์โฮสเตสสาวๆที่ต้องมารับชะตากรรมสุดโชคร้ายไม่รู้ตัว
ระดับความสะพรึง 4 กระโหลก โหด เหี้ยม อำมหิต จิต เป็นตอนที่โหดสุดๆตอนหนึ่งในเรื่องเลย
เรื่องที่ 3 ต้นตำรับผวา เป็นเรื่องราวของสองพี่น้องที่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันในทุกๆเรื่องๆ (น้องเป็นลูกของแม่เลี้ยง) หลังจากที่คนพี่ตอบตกลงที่จะแต่งงานกับคุณหมอหนุ่มสุดเพอร์เฟค คนน้องซึ่งเฝ้าอิจฉาตาร้อนมาตลอดจึงได้คิดแผนบางอย่างก่อนวันแต่ง โดยการศัลยกรรมตัวเองให้เหมือนพี่สาว จากนั้นจับพี่ตัวเองขังไว้และสวมรอยเข้าแต่งงานแทน โดยที่เธอหารู้ไม่ว่าคุณหมอหนุ่มที่พวกเธอหวาดฝันแย่งชิงกันนั้น แท้จริงแล้วเขามีความลับสุดผวาซุกซ่อนอยู่ ความลับที่เกี่ยวข้องกับความตายและการกินเนื้อมนุษย์...
ระดับความสะพรึง 4 กระโหลก ว่าน้องกับแม่เลี้ยงเลวสุดๆแล้วนะ เจอทีเด็ดของไอ้หมอบ้านี่ เล่นเอาขนลุกสุดๆ
เรื่องที่ 4 เหตุฉุกเฉิน เป็นเรื่องราวของทีมแพทย์ที่ถูกส่งเข้ามายังพื้นที่เขตอันตราย ซึ่งมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้ายแรงอยู่ พวกเขาได้ทำการช่วยเหลือแม่ลูกคู่หนึ่ง ซึ่งกำลังหนีตายอย่างสุดชีวิตจากอะไรบางอย่าง ภายหลังได้รับการช่วยเหลือทีมแพทย์ได้พบว่าลูกชายของเธอถูกกัดและแผลกำลังติดเชื้อ หากไม่ได้รับการฉีกวัคซีนเขาจะกลายสภาพเป็นอมุษย์กระหายเลือดทันที แต่วัคซีนในตอนนี้พวกเขาไม่มี พวกเขาจึงเลือกที่จะฆ่าเด็กคนนี้แทน แล้วมีหรือที่คนเป็นแม่จะยอม...
ระดับความสะพรึง 3 กระโหลก ไม่มีอะไรจะกลัวไปกว่ามนุษย์อีกแล้ว...และที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว หลากหลายเรื่องราว หลากหลายอารมณ์ มากมายไปด้วยเรื่องราวความสยองขวัญสุดสะพรึง ที่ถูกเล่าผ่านปากของเด็กสาวซึ่งกำลังจะถูกฆาตกรต่อเนื่องฆ่า หากเรื่องที่เธอเล่าไม่น่ากลัว ซึ่งกลับกันถ้าเธอเล่าดี มันจะเป็นการกล่อมให้เขาหลับและเธออาจใช้ช่วงเวลานี้หลบหนี เนื้อเรื่องสั้นๆง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยความความน่ากลัวสุดๆ
ระดับความสยอง 5 ดาวเต็ม นานมากแล้วที่ไม่ได้ดูหนังสยองขวัญเป็นตอนๆที่ดีถึงขนาดนี้ แต่ละตอนทำออกมาได้ดีมากๆ หลอนมากและน่ากลัวมาก เอาเป็นว่าดูคนเดียวไม่ได้เลยล่ะกันหรือถ้าดูก็ต้องมีผวาคนหัวลุกบ้างล่ะ เพราะหนังมันครบรสชาติจริงๆ มีทั้งผี ฆาตกร หมอจิต หรือแม้แต่กระทั่งซอมบี้ก็ด้วย ใครกำลังมองหาหนังสยองขวัญดีๆสักเรื่องเรื่อง ไม่ควรพลาดครับ
ระดับความน่าดู 4 ดาว เป็นสี่แพร่งแบบไทยที่มาในเวอร์ชั่นของเกาหลี เรื่องราวถูกแบ่งออกเป็นตอนๆ และถูกนำมามัดรวมเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ละตอนก็ถูกกำกับโดยผู้ต่างคนกัน แล้วแต่สไตล์ของใครของมัน ต่างก็ตรงที่ว่าในเวอร์ชั่นของเกาหลีนั้นไม่มีช่วงไหนจะขำได้เลยแม้แต่น้อย แต่มันอัดแน่นเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงล้วนๆ
ตัวหนังนะครับ ^ ^
Horror Stories 2012 เรื่องเล่า...เขย่าขวัญ
วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Cello 2005 เชลโล่สีเลือด
Cello หนังสยองขวัญสั่นประสาทแนวผีๆจากประเทศกิมจิ ที่หยิบเอาบทเพลงและเครื่องดนตรีอย่างเชลโล่มาเป็นแกนในการดำเนินเรื่องราว หนังเริ่มต้นขึ้นที่คุณครูสอนดนตรีสาว มีจู ซึ่งมีหน้าที่เป็นคนคัดเลือกตัวแทนขึ้นแสดงงานสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่ช้า แต่ทว่าก่อนจะถึงช่วงเวลานั้น เธอกลับถูกคุกคามโดยอดีตลูกศิษย์ของเธอเอง ซึ่งมีจูไม่ได้เลือกเธอขึ้นแสดงในงานครั้งนี้ด้วย เด็กคนนั้นพยายามข่มขู่มีจูและบอกกับเธอว่า เขารู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น บทเพลงที่สร้างชื่อเสียงกับมีจูตั้งแต่ครั้งอดีตผ่านมาจนถึงปัจจุบัน หาใช่มีจูเป็นคนคิดขึ้นเองไม่ แต่มีจูแอบก๊อปปี้ผลงานของเพื่อนตัวเองมาแล้วแอบอ้างชื่อตัวเองแทน มิหนำซ้าเพื่อนคนที่ว่านั่นของมีจูก็ประสบอุบัติตายไปแล้วด้วย หลังจากพูดจบเด็กคนนั้นก็มอบเทปเพลงให้กับมีจู ซึ่งในขณะขับรถมีจูได้เปิดฟังมันจนทำให้รถของตัวเองประสบอุบัติเหตุในที่สุด...หลังจากเหตุการณ์นั้น มีจูถูกตามรังควาญโดยวิญญาณร้ายที่หมายจะเอาชีวิตของเธอและคนในครอบครัว มีจูเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง หลังจากที่เธอซื้อเชลโล่ให้ลูกสาวเป็นของขวัญ และความผิดปกติที่ว่านั้นกำลังเริ่มคุกคามมีจู เริ่มกดดันให้เธอต้องหาหนทางที่จะกำจัดมันออกไป โดยที่มีจูไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังถูกบงการให้เป็นคนลงมือสังหารคนในครอบครัวของตัวเอง...
ระดับของเนื้อหา 3 ดาว เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรมากมายครับและก็ไม่ได้เกี่ยวกับผีสิงเชลโล่แต่อย่างใด หรือใครทายว่าเป็นการฆาตกรรมยัดศพลงกระเป๋าเชลโล่ นี่ก็ยังไม่ใช่อีก - -'' แต่เป็นเรื่องราวของบทเพลงที่บรรเลงโดยเครื่องดนตรีอย่างเชลโล่ ซึ่งมีความพลิกไปพลิกมาและหักเหลี่ยมกันพอสมควร ว่าใครกันคือเจ้าของบทเพลงที่แท้จริง และวิญญาณที่ตามอาฆาตมีจูเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ที่สำคัญตอนจบของเรื่องนี้ เป็นอะไรที่บ๊ระเจ้าโจ๊กมากครับ (ดูเองจะรู้ดีสุด...เชื่อผม)
ระดับความสยอง 4 ดาว เป็นหนังผีจากเกาหลีที่มีระดับความสยองค่อนข้างจะมาตราฐานมากครับ ไม่ได้โหดเหี้ยมหรือว่ารุนแรงอะไรเกินความจำเป็น มีการใช้ CG ช่วยเป็นบางฉาก แต่โดยรวมแล้วก็ยังจัดได้ว่าหลอนระทึกและสยองตามมาตราฐานหนังสยองขวัญ ยิ่งช่วงท้ายๆของเรื่องจะมีทั้งหลอน โหด สยอง รวมมาหมดครบเครื่องเลยครับ
ระดับความน่าดู 3 ดาว หากจะเทียบกับหนังสยองขวัญของเกาหลีหลายๆเรื่องที่เคยผ่านตามา คงบอกได้ว่าหนังสยองขวัญเรื่องนี้ อาจจะไม่ได้สุดยอดอะไรขนาดนั้น แต่หากมองในมุมกลับกัน ผมมองว่านี่คือหนังสยองขวัญที่รักษามาตราฐานของหนังสยองขวัญได้อย่างดีเยี่ยม นั่นก็คือถึงแม้มันจะไม่ได้ดีเลิศอะไรมากมาย แต่ก็ยังคงตอบสนองความต้องการของผู้ชมได้อยู่ ทั้งในเรื่องของเรื่องราวและความสยองก็อยู่ในระดับที่ใช้ได้ ก็ไม่เลวสำหรับจะดูในช่วงเวลาหนังผีขาดแคลนหรือสำหรับคนที่เป็นแฟนหนังผีของเกาหลี
ตัวหนังนะครับ ^ ^
Cello 2005 เชลโล่สีเลือด
วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Urban Explorer 2011 อุโมงค์ผวา...
ใต้มหานครเบอร์ลินประเทศเยอรมัน มีอุโมงค์ใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกมากถึง 25,000 แห่ง สองในสามนั้นยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่เคยถูกค้นพบและเต็มไปอันตรายมากมาย Urban Explorer เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนรักนักท่องเที่ยวชาวอเมริกากลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้จ้างไกด์ส่วนตัวของพวกเขา ให้มานำเที่ยวสำรวจอุโมงค์โบราณตั้งแต่ยุคสมัยสงครามโลกครั่งที่ 2 (เป็นการผจญภัยแนวใหม่สำหรับกลุ่มคนมีตัง ที่นิยมในการสร้างความท่้าทายให้กับตัวเอง) เมื่อ 60 ปีก่อน มันถูกใช้เป็นที่ซ่องสุมกองกำลังทหารจักรวรรดินาซี อีกทั้งยังใช้เป็นที่ลำเลี้ยงเสบียงอาหาร ที่หลบซ่อนตัวให้พ้นจากการบุกโจมตีของข้าศึก จึงถือได้ว่ามีความน่าสนใจอยู่ในไม่น้อยและกระตุ้นความอยากรู้อยากเเห็นให้กับนักท่องเที่ยวสมัยใหม่ ที่นิยมชมชอบในการผจญภัยในที่แปลกๆ เฉกเช่นเดียวกับกลุ่มเด็กวัยรุ่นอเมริกันกลุ่มนี้ แต่เมื่อพวกเขาลงไปสำรวจอุโมงค์ที่ว่านั่นและเดินลึกเข้าไปในนั้นเรื่อยๆ ความลับที่ซ่อนอยู่ของมันก็เรื่มคืบคลานเข้ามาเล่นงานพวกเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อไกด์นำทางของพวกเขาประสบอุบัติเหตุจนเจ็บหนัก กลุ่มวันรุ่นที่เพิ่งเข้ามาในที่นี่เป็นครั้งแรกจึงเริ่มรนลานทำอะไรไม่ถูก พวกเขาจึงแยกย้ายกันไปออกตามหาความช่วยเหลือ ในที่สุดพวกเขาก็พบชายแก่เร่ร่อนท่าทางเป็นมิตรคนหนึ่ง ซึ่งอาสาจะช่วยพวกเขาและพาไปที่บ้าน(ต้องเรียกว่าห้องลับในอุโมงค์มากกว่า) พวกเด็กวัยรุ่นตอบตกลง โดยที่ไม่รู้ตัวว่าพวกเขาก็กำลังจะเผชิญหน้ากับนรกสุดขั้วที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า...เมื่อชายเร่ร่อนเริ่มแสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมา มันเริ่มทำร้ายพวกเขาทีละคนและออกล่าคนที่เหลืออย่างบ้าคลั่ง วินาทีแห่งการฆ่าทรมานและไล่ล่าได้เริ่มต้นขึ้น กลุ่มเด็กวัยรุ่นต้องเผชิญหน้ากับอาชญากรสงคราม อดีตทหารนาซีผู้ซึ่งกระหายและคลั่งไคล้ในการฆ่า มันหลบซ่อนอยู่ที่อุโมงค์ใต้ดินแห่งนี้มาเป็นเวลานานแสนนาน และประทังชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินเนื้อมนุษย์ !
ระดับของเนื้อหา 3 ดาว เป็นความจริงนะครับที่ว่ามหานครเบอร์ลินเมืองหลวงของประเทศเยอรมัน มีอุโมงค์ใต้ดินที่มากมายถึง 25,000 แห่ง บางส่วนก็ถูกค้นพบและทำการสำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีบางที่ยังเปิดให้บริการพานักท่องเที่ยวสำรวจอีกด้วย แต่ก็ยังมีอุโมงค์อีกมากมายที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจหรืออถูกค้นพบ อุโมงค์เหล่านี้ไม่ถูกปิดตายก็ถูกเก็บเป็นความลับ หนังหยิบเอาความลึกลับที่ว่านั่น มาสร้างเป็นความเขย่าขวัญซะเลย โดยให้ตัวดำเนินเรื่องเป็นชายแก่ท่าทางใจดี แต่จิตใจกลับเหี้ยมโหดอำมหิต เสียดายที่หนังทำออกมาได้ไม่กระชับ กว่าจะสนุกก็ต้องกลางเรื่องไปแล้ว
ระดับความสยอง 4 ดาว ระทึกโหดไม่ธรรมดาครับกับหนังสยองขวัญเรื่องนี้ มีทั้งฉากการกรีดหน้า ถลกหนัง ฆ่ารัดคอ โดยรวมแล้วโหดดีถึงใจดีแท้ ยิ่งตัวฆาตกรนี่เป็นอะไรที่จิตได้ใจมาก ฆ่าไปขำไปแบบจิตๆ ฉากการไล่ล่าลุ้นระทึกก็จัดว่าทำได้ดี ดูแล้วน่าเอาใจช่วย ติดหน่อยก็ตรงที่ว่าตัวละครเอาแต่หนีอย่างเดียวเลย สู้หน่อยๆก็ได้มั้งแค่ผู้ชายแก่ๆคนเดียวเอง - -''
ระดับความน่าดู 3 ดาว ความน่าสนใจของหนังอยู่ตรงที่การเข้าได้ไปสำรวจในอุโมงค์เก่าแก่ ซึ่งยังไม่เคยมีใครค้นพบมาแล้วถึง 60 ปี ที่ด้านในก็มีความลี้ลับมากมายที่รอคอยต้อนรับพวกกลุ่มวัยรุ่นอยู่ โดยส่วนตัวแล้วผมโอเคกับหนังเรื่องนี้นะ มันดูแบบไม่ได้มีอะไรมากไปหรือน้อยไป ช่วงแรกก็เน้นที่การสำรวจอุโมงค์แบบเป็นเรื่องเป็นราว แน่นอนว่ามันก็ดูลึกลับน่าค้นหาดี แต่พอไกด์ประสบอุบัติเหตุเท่านั้นล่ะครับ ความระทึกก็ค่อยๆทยอยตามกันเข้ามาเลย ดูสนุกแบบกลางๆไม่ต้องคิดมากครับผม
ตัวหนังนะครับ ^ ^
Urban Explorer 2011 อุโมงค์ผวา...
วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : The Slit Mouthed Woman 2007 เปิดตำนานฆ่า(เ)ปิดปาก (อีสาวปากฉีก)
จากตำนานผียอดฮิตในประเทศญี่ปุ่น (ความดังก็คงไม่แพ้ผีกระสือหรือผีปอบของบ้านเราเลยทีเดียว) เรื่องราวของผีสาวปากฉีก ที่จะออกมาดักพบผู้คนในเวลาพลบค่ำ ด้วยชุดที่ยาวรุ่มร่ามและปกปิดใบหน้าด้วยผ้าคาดปาก จากนั้นเธอก็จะถามว่า "ฉันสวยไหม" หากตอบว่าสวย เธอก็จะเปิดผ้าคาดปากออกให้มองเห็นรอยแผลที่ถูกกรีดปากยาวไปจนถึงใบหู แล้วถามไหมอีกครั้งว่า "แล้วแบบนี้ล่ะ...ยังสวยอยู่หรือเปล่า" ซึ่งหากในตอนนี้ใครตกใจกลัวจนวิ่งหนีไปหรือตอบว่าไม่สวย ว่ากันว่าเธอจะตามไล่ล่าคนๆนั้นและจับมาฉีกปากให้เหมือนกับเธอ หากใครใจแข็งแล้วตอบว่ายังสวยอยู่เธอก็จะจากไปเอง... (เจอเข้าจริงๆ อาจมีเข่าอ่อนกันบ้างล่ะ ปากฉีกถึงใบหูเลยนะนั่น บรึ๋ยย...) ว่ากันว่าตำนานของเธอเกิดขึ้นมาในสมัยยุคโบราณของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเธอเป็นถึงภรรยาสาวสวยของซามูไรคนหนึ่ง แต่ด้วยความสวยที่มีมากจนเกินไป จึงทำให้สามีของเธอคิดว่าเธอแอบคบชู้สู่ชาย เขาจึงได้ใช้ดาบตวัดตัดปากของเธอจนขาดถึงใบหู ให้เธออัปลักษณ์และได้รับความอับอาย ด้วยความที่เป็นคน(เคย)สวย ทุกๆวันเธอจะเฝ้าแต่ถามคนนั้นคนนี้ ถึงความงามที่เปลี่ยนไปของเธอ แน่นอนว่าทุกๆคนนอกจากจะตอบว่าไม่สวยแล้ว ยังหวาดกลัวกับใบหน้าของเธออีกด้วย และเมื่อเธอตายวิญญาณของเธอยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นและแรงอาฆาต เธอมักจะออกมาดักพบผู้คนและตั้งคำถามเดียวกันกับที่เธอถามคนอื่นๆในสมัยนั้น ซึ่งในตอนนี้แตกต่างกันตรงที่ว่า "เธอสามารถฆ่าได้ทุกคน หากใครกล้าพูดว่าเธอไม่สวย" The Slit Mouthed Woman เรื่องราวที่เล่าขานกันในหมู่เด็กๆ ถึงผีสาวปากฉีกที่จะออกมาลักพาตัวเด็กทุกคน ที่ออกมาเล่นบริเวณสวนสาธารณะเวลา 5 โมงเย็น ถึงแม้พวกผู้ใหญ่จะไม่มีใครเชื่อ แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าไม่จริง เพราะทุกๆวันก็มีเด็กหายตัวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทางโรงเรียนต้องออกมาตราการเตือนเด็กๆทุกคน รวมไปถึงบรรดาผู้ปกครอง ให้ดูแลลูกๆของตัวเองไม่ให้ออกมาเพ่นพ่านในช่วงเวลานั้น แท้ที่จริงแล้วผีสาวปากฉีกคือใคร และเธอลักพาตัวพวกเด็กๆไปทำอะไร จะมีวิธีไหนที่หยุดยั้งเธอได้หรือเปล่า ต้องติดตามครับ
ระดับของเนื้อหา 3 ดาว เกริ่นถึงตำนานซะยาวเลย แต่ไม่ใช่มันไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องนะครับ - -'' เนื้อมันมีอยู่และออกไปแนวทางดราม่าสยองขวัญปนรัดทดซะด้วย เรื่องราวของตำนานผีสาวปากฉีก ถูกนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสมัยปัจจุบัน โดยใช้การเล่าเรื่องผ่านเด็กคนหนึ่งและครูอีกสองคน ที่พยายามค้นหาความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าที่จริงแล้วผีสาวปากฉีกนี่คือใครกันแน่และเธอทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร จนกระทั่งในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบต้นตอของสาเหตุทั้งหมด ที่ทำให้ผีสาวปากฉีกออกอาละวาดในครั้งนี้
ระดับความสยอง 4 ดาว อย่างที่บอกครับหนังมันสยองขวัญปนรันทดจริงๆ ถือว่าเป็นโศกนาฎกรรมเลยก็ว่าได้ จากจุดเริ่มต้นเพียงเล็กๆของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีแม่เป็นคนวิกลจริต ยามปกติเธอคือคุณแม่ที่แสนดีโอบอ้อมอารีต่อลูก แต่เมื่อใดก็ตามที่อาการกำเริบ เธอก็จะควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ และทำร้ายร่างกายลูกชายของเธอ ท้ายที่สุดเธอก็ตายอย่างน่าเศร้าและกลายเป็นวิญญาณสาวปากฉีกในที่สุด ในเรื่องมีฉากฆ่าเด็กๆด้วยนะ ก็ถือว่าแรง หลอน รันทด ปนๆกันไป
ระดับความน่าดู 3 ดาว ช่วงแรกของหนังแทบจะไม่มีอะไรเลยครับ ออกแนวไปทางกิ๊กก๊อกมากๆเลยด้วยซ้ำไป ไม่มีฉากโหดๆแต่อย่างใด แค่ผีสาวปากฉีกโผล่ไปลักพาตัวเด็กคนนั้นคนนี้เฉยๆ แต่หนังเริ่มมีดีตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องไปถึงตอนท้ายครับ เพราะมันจะเจาะลงลึกถึงที่มาที่ไปของผีสาวปากฉีก รวมไปถึงฉากหลอนๆโหดๆก็เริ่มทยอยออกมาให้ดูอย่างไม่ขาดสาย ก็แล้วแต่คนชอบล่ะครับ
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พร้อมซับไทย
The Slit Mouthed Woman 2007 เปิดตำนานฆ่า(เ)ปิดปาก (อีสาวปากฉีก)
Review : The Human Centipede II 2011 จับคนมาทำตะขาบ 2
อภิมหาหนังสุดป่วยจิตเรื่องหนึ่งของวงการภาพยนต์สยองขวัญ หลังจากที่ภาคแรกได้สร้างกระแสความพะอืดพะอมไปกับเรื่องราวสุดจิตวิปลาสของด็อกเตอร์สติเฟื่องคนหนึ่ง ที่คิดจับคนมาทดลองให้ใช้ระบบทางเดินอาหารเดียวกัน ด้วยวิธีการเย็บลำไส้ของทุกคนเข้าด้วยกันให้เป็นเส้นตรง จากนั้นเย็บปากของคนถัดไป ให้เชื่อมต่อกับรูทวารของคนหน้าต่อกันไปเรื่อยๆ (แค่ฟังยังป่วยคิดดูสิ - -'') การลำเลียงอาหารจึงเป็นไปในรูปแบบที่ว่า "เมื่อคนหน้าสุดกินอาหารเข้าไป จากนั้นก็จะถ่ายออกมาเข้าสู่ปากของคนถัดไป ต่อๆกันเป็นทอดๆไปเรื่อยๆ" The Human Centipede II ในภาคนี้จะเป็นเรื่องราวของไอ้อ้วนจอมซกมกที่มีนามว่า มาร์ติน ซึ่งมีหน้าที่ประจำก็คือยามเฝ้าลานจอดรถชั้นใต้ดิน ทุกๆวันมาร์ตินจะดูดีวีดีเรื่อง The Human Centipede ซึ่งเขาคลั่งไคล้มันมาก จนถึงขนาดอยากจะเป็นหนึ่งในส่วนร่วมในนั้นเลยทีเดียว ตลอดเวลาที่มาร์ตินดูดีวีดีเขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหนังเป็นเรื่องจริง มิหนำซ้ำยังคิดที่จะเลียนแบบอีกด้วย แต่จะทำทั้งทีมันต้องอลังการงานสร้างกว่าอยู่แล้ว ว่าแล้วมาร์ตินก็เริ่มภารกิจครั้งสำคัญของเขา โดยการจับชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องมาถึง 10 กว่าคน (หนึ่งในนั้นมีหญิงท้องแก่รวมอยู่ด้วย) จากนั้นก็เริ่มแผนการของเขาที่วางเอาไว้ โดยเอาคนทั้งหมดเย็บติดกันเป็นทอดๆเหมือนตัวตะขาบในหนัง The Human Centipede ที่เขาเคยดูมา ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีความรู้เรื่องวิชาการแพทย์มาเลยสักกะนิ๊ด อีกทั้งเครื่องผ่าตัดก็ไม่มีอีกด้วย (แต่ก็เอาวะมาถึงขั้นนี้แล้ว - -'') มาร์ตินจึงใช้ความรู้เท่าที่มีผสมผสานกับเครื่องมือช่างของตัวเอง เพื่อเนรมิตสิ่งที่สุดแสนจะวิเศษพิศดาร นั่นก็คืออภิมหาตะขาบยักษ์ตัวต่อไปนั่นเอง
ระดับของเนื้อหา 2 ดาว หนังถูกสร้างตามออกมา หลังจากที่ภาคแรกได้สร้างกระแสความนิยมอย่างสูง ในหมู่คนนิยมชมชอบหนังสยองขวัญแนวแปลกและคัลท์ จนผู้กำกับอย่าง Tom Six (Six ในที่นี้น่าจะหมายถึง Sick ที่แปลว่าป่วยมากกว่านะ เพราะหนังของแกแต่ละเรื่องป่วยหนักเกินเยียวยาจริงๆ - -'') ในภาคนี้ผู้กำกับพยายามยัดเยียดแต่ความป่วยจิตของตัวละครอย่างมาร์ติน รวมไปถึงเน้นหนักไปที่ฉากต่อมนุษย์ตะขาบ ซะจนมองไม่เห็นเนื้อเรื่องอะไรเลย นอกซะจากความป่วยจิตล้วนๆ
ระดับความสยอง 4 ดาว ผู้กำกับอย่าง Tom Six ประกาศก่อนสร้างภาคนี้ว่า จะทำให้โหดกว่าเดิม แรงกว่าเดิม และป่วยจิตยิ่งกว่าเก่า ซึ่งผลที่ได้ก็คือ บางอย่างก็ตรงตามที่เขาพูดไว้ครับ ในเรื่องของความโหดความรุนแรงที่มีมากขึ้น แต่ในด้านความป่วยนี่ โดยส่วนตัวแล้วยังแพ้ภาคแรกครับ ถึงภาคแรกจะไม่ได้มีมากเท่านี้ แต่แค่ฉากที่ตัวละครทำสีหน้ากำลังเบ่งอุจจาระแล้วคนต่อมาต้องกลืนมันลงคอแบบต่อเนื่อง แค่นี้ก็เล่นเอาคนดูพะอืดพะอมจนจะอ้วกกับภาพที่ได้เห็นแล้วครับ ถึงแม้ตะขาบในตอนนั้นจะมีแค่ 3 คนก็เถอะนะ
ระดับความน่าดู 3 ดาว จริงๆแล้วหนังควรจะดีมากกว่านี้ หากไม่ถูกตัดถูกหั่นไปซะก่อนจากกองเซ็นเซอร์ ซึ่งว่ากันว่าอาจมีมากถึง 30 กว่าฉากเลยทีเดียว เลยทำให้ผลที่ได้ออกมา หนังดูไม่สมประกอบในหลายๆจุด และทำไม่ถึงขั้นเทียบเท่าภาคแรก แต่ก็เหมาะสำหรับแฟนพันธุ์ที่ตามดูเรื่องราวภาคต่อของหนังเรื่องนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามันมีให้ดูอย่างจุใจ ไปกับความป่วยความจิตและมนุษย์ตะขาบที่ยาวเป็น 10 คน สำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้ ควรหนีให้ห่างเลยครับผม
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พร้อมซับไทย
The Human Centipede II 2011 จับคนมาทำตะขาบ 2
Review : The Road 2011 ถนน...ผีเฮี้ยน
หนังสยองขวัญจากแดนตากาล็อกประเทศฟิลิปปินส์ ที่สร้างชื่อเสียงจนถึงขนาดได้เข้าฉายในประเทศอเมริกา ผลงานจากผู้กำกับ Yam Laranas ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่สร้างเรื่อง Sigaw จนดังระเบิดเถิดเทิง แล้วถูก Hollywood ซื้อไปรีเมคโดยใช้ชื่อว่า The Echo ในครั้งนี้เขากลับมาในผลงานสยองแนวผีๆตามสไตล์ตัวเองอย่างเคย The Road เรื่องราวความสยองขวัญจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ซึ่งแต่ละช่วงจะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน (งงไหมนะ - -'') เรื่องแรกจะเป็นเรื่องราวของกลุ่มเด็กวัยรุ่น 3 คน ที่แอบหนีพ่อแม่ของพวกเขามาขับรถเที่ยวกันเองในเวลากลางคืน แต่ทว่าทางที่พวกเขากำลังจะไปนั้น ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจอยู่และพวกเขาก็ไม่มีใบขับขี่ซะด้วย ว่าแล้วคนขับจึงเลือกใช้เส้นทางลับที่ถูกปิดตายเอาไว้ ซึ่งมันเป็นทางถนนลูกรังเก่าๆไม่ได้ใช้งานมานานมากแล้ว แต่ในระหว่างทางพวกเขากลับพบเจอเรื่องราวสุดสะพรึงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบรรดารถที่คอยขับตามพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ที่น่าผวาก็คือรถทุกๆคันไม่มีคนขับ ! จะมีซะแต่ผีล้วนๆ ที่คอยหลอกหลอนพวกเขาตลอดเส้นทาง... เรื่องที่สอง เป็นเรื่องราวที่ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนบนถนนเส้นเดียวกันนี้ เมื่อวัยรุ่นสาวสองพี่น้องที่รถของพวกเธอดันมาเสียบนถนน ระหว่างนั้นเองพวกเธอก็ได้ขอความช่วยเหลือไปยังผู้ชายอีกคนที่เดินผ่านทางมาพอดี เขาบอกว่าบ้านของเขาอยู่ใกล้ๆและจะให้ความช่วยเหลือพวกเธอ แต่เมื่อสองสาวเดินตามผู้ชายคนนั้นไปยังบ้านของเขา พวกเธอกลับต้องเผชิญชะตากรรมสุดโชคร้าย เมื่อผู้ชายคนนั้นหาใช่พลเมืองดีไม่ แต่มันคือฆาตกรโรคจิตที่ชอบจับเหยื่อมาทรมานและฆ่าอย่างโหดเหี้ยมแทน... เรื่องที่สาม เป็นเรื่องราวที่ย้อนไปไกลกว่านั้นก่อนที่จะมีถนนเส้นนี้ตัดผ่าน ในบ้านหลังหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่และลูกชายของพวกเขา ทุกๆคนในบ้านต่างหวาดกลัวและตกอยู่ในการควบคุมของผู้เป็นแม่ ซึ่งเธอมีอาการประสาทและวิกลจริต อีกทั้งยังเป็นพวกชอบใช้กำลังกดขี่ทั้งลูกและสามีให้อยู่ใต้อำนาจของเธอเอง กระทั่งวันหนึ่งมีเด็กสาวมาสมัครเป็นคนรับใช้ที่บ้านของพวกเขา คนเป็นแม่จึงรับเธอไว้ทำงาน แต่มีข้อแม้ว่าเด็กคนนั้นจะต้องห้ามมายุ่งกับลูกชายของเธอ แน่นอนว่าเด็กสาวคนนั้นทำพลาดและสุดท้ายเธอก็ถูกฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจ...จากน้ำมือแม่จิตวิปลาสของครอบครัวนี้ และผลกรรมที่เธอทำไว้ กำลังจะคืนสนองเธอในไม่ช้า...
ระดับของเนื้อหา 3 ดาว หากฟังดูจากเรื่องย่อแล้วต้องขอบอกว่าค่อนข้างน่าสนใจพอสมควรเลยทีเดียว ตัวหนังจะย้อนเรื่องราวความเฮี้ยนของถนนเส้นนี้ ไล่ไปตั้งแต่ตอนแรกที่กลุ่มวัยรุ่นเจอผีเล่นงาน ต่อมาก็ย้อนกลับไปเล่าถึงสาเหตุว่าผีมันมาได้ยังไง ตบท้ายด้วยตอนสุดท้ายที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด แต่ตัวหนังกลับทำออกมาได้แค่ระดับกลางๆ ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมาย แถมหนังยังยาวซะเกือบ 2 ชั่วโมง เลยมีบางช่วงที่หนังค่อนข้างอืดไปนิด
ระดับความสยอง 4 ดาว ก็หลอนสยองแบบผีๆปนกับเรื่องราวของการฆาตกรรม หลายๆฉากก็ทำออกมาได้น่ากลัวดี ดูแล้วขนลุกใช้ได้เหมือนกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายฉากที่ค่อนข้างแป๊ก ซึ่งนอกจากจะไม่น่ากลัวแล้วยังดูง่อยอีกด้วย - -'' เช่นฉากที่สมควรจะให้มันรวดเร็วรุนแรง ตัวหนังกลับใส่ภาพสโลว์โมชั่นมาซะอย่างงั้น เลยทำให้คนดูคิดว่ามันหลอกตาและไม่สมจริงโดยปริยาย แต่โดนรวมแล้วผมชอบฉากผีๆของหนังครับ หลอนเอาอยู่ใช้ได้เลย
ระดับความน่าดู 3 ดาว จะว่าดีมันก็ดีครับหากเทียบกับหนังสยองขวัญทั่วๆไป ถึงแม้จะไม่ได้สุดยอดระดับหนังสยองขวัญจากประเทศเพื่อนบ้านเช่น Rumah Darah จากอินโดนีเซีย หรือ Shutter จากประเทศไทย (แอบเชียร์หนังไทยนิดหนึ่ง ^ ^) แต่ทว่าหนังก็สนุกหลอนพอตัว อีกทั้งยังเอาดารานักแสดงวัยรุ่นสวยๆหล่อๆมาเล่นกันทั้งเรื่อง ดูแล้วก็เพลินตาดีเหมือนกัน
ตัวหนังนะครับ ^ ^
The Road 2011 ถนน...ผีเฮี้ยน
วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : MUM & DAD 2008 พ่อจ๋า แม่จ๋า อย่าฆ่า ! (หนู)
MUM & DAD หนังสยองขวัญปนระทึกจากประเทศอังกฤษ ที่ได้รับคำชมและเสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างดี ในเรื่องของความจิตวิปริตและความอำมหิตแบบสุดวิตถารของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งชื่นชอบในการทรมานและจำลองบทบาทสมมุติให้เหยื่อแต่ละคนเป็นลูกๆ ใครก็ตามที่สามารถสนองความต้องการสุดวิปริตของพ่อและแม่ได้ก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ส่วนคนที่ขัดขืนไม่ฟังคำสั่งไม่เชื่อฟัง ผลลัพท์ที่ได้ก็คือตายสถานเดียว... หนังเริ่มต้นที่ ลีน่า หญิงสาววัยรุ่นน่ารักที่ได้แยกจากครอบครัวของตัวเอง มาทำอาชีพประจำคือพนักงานทำความสะอาดในสนามบินแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่นเธอได้พบกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่า เบอร์ดี้ หลังจากที่ทำความรู้จักและพูดคุยกันไปได้สักพัก เบอร์ดี้ก็แนะนำให้ลีน่าได้รู้จักกับพี่ชายของเธออีกคน ซึ่งมาคอยรับส่งเบอร์ดี้ทุกๆวัน แต่ทว่าวันหนึ่งลีน่าเกิดขึ้นรถประจำทางกลับบ้านไม่ทัน เบอร์ดี้จึงอาสาชวนลีน่าให้ไปพักที่บ้านของเธอเอง ซึ่งพ่อแม่ของเธอจะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีเพื่อนๆมาเยี่ยมที่บ้าน ลีน่าตอบตกลงไปโดยที่ตัวเองไม่รู้เลยว่า กำลังมุ่งหน้าสู่ขุมนรกโลกันตร์ที่เต็มไปด้วยความทรมานและการฆ่าไม่ต่างไปจากนรกบนดิน แทบจะทันทีที่ลีน่าก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน เธอถูกเล่นงานจากข้างหลังและถูกจับขึงพืดเอาไว้กลางห้อง ลีน่าถูกใช้เป็นเครื่องสนองตัญหาและความจิตวิปลาสของครอบครัวนี้ ซึ่งมีพ่อและแม่จอมโหดอำมหิตเป็นผู้นำ เธอถูกทรมานดวยวิธีการต่างๆนาๆมากมายและยากที่จะหนีรอดออกไปได้ ท้ายที่สุดสิ่งเดียวที่ลีน่าคิดได้ในตอนนี้ก็คือ "ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเราอีกแล้ว"
ระดับของเนื้อหา 3 ดาว เป็นหนังสยองขวัญฟอร์มเล็กจากประเทศอังกฤษที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ถึงแม้เนื้อเรื่องจะไม่มีอะไรมาก ใช้ตัวแสดงกันแค่ไม่กี่คน แต่ก็น่าดูน่าสนใจและชวนให้คนดูติดตามได้ตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งตัวพ่อแม่ในหนังเรื่องนี้ ก็โหดจิตสุดขั้วแถมยังวิตถารอีกตะหาก เรียกได้ว่าครบเครื่องของความเลวระยำเลยทีเดียว ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกๆแท้ๆ - -''
ระดับความสยอง 4 ดาว โหด ทรมาน หวาดเสียว และสงสารลีน่าแบบสุดๆ คิดดูว่าเธอต้องรับมือกับสารพัดความจิตของบรรดาคนในครอบครัวนี้ มิหนำซ้ำยังไม่มีทางหนีเพราะต้องถูกจับมัดไว้ตลอด ถ้าขัดขืนมากๆเข้าก็ตายแน่นอน ดูจากบรรดาศพมากมายที่เรียงรายอยู่ในบ้าน เป็นตัวการันตีได้เป็นอย่างดี ว่าพวกมันไม่ได้แค่จิตวิปลาสเพียงอย่างเดียว แต่ยังโหดอำมหิตอีกด้วย
ระดับความน่าดู 4 ดาว หนังมาในสไตล์ "เมื่อความซวยมาเยือน" โดยแท้ เรียกได้ว่าตัวเอกอย่างลีน่าแทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะต้องเจอสภาพแบบไหน หลังจากที่ตบปากรับคำกับเพื่อนสุดจิตของเธอ แต่ก็ต้องชมว่าเธอจิตแข็งมากและก็มีความพยายามสูงสุดๆ ในการอดทนอดกลั้นและค้นหาช่องทางรอด ส่วนหนึ่งก็ต้องชมนักแสดงนำของเรื่องอย่าง Olga Fedori เด็กสาววัยรุ่นชาวยูเครนที่รับบทเป็นลีน่า รวมไปถึงนักแสดงที่เล่นเป็นพ่อและแม่ แต่ละคนเล่นได้ดีจริงๆ ดูแล้วทั้งป่วยจิต สยองปนลุ้นระทึกไม่ใช่น้อยเลย
วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Kotoko 2011 โคโตโกะ
จิตตก ประสาทหลอน ป่วยหนักรุนแรงและบาดเจ็บทางจิตแบบสุดขั้ว คำนิยามสั้นๆที่จะอธิบายเรื่องราวของหนังดราม่าสยองขวัญเรื่องนี้จากประเทศญี่ปุ่น Kotoko เรื่องราวของคุณแม่มือใหม่ โคโตโกะ ที่กำลังเผชิญหน้ากับความกดดันที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่มีหยุดพัก เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสภาพคนวิกลจริต หวาดวิตกและกังวล กลัวว่าลูกชายเพียงคนเดียวของเธอจะได้รับอันตรายจากสิ่งที่เธอเองก็คาดไม่ถึง ทุกๆครั้งที่โคโตโกะเริ่มมีอาการจิตตก เธอจะเริ่มเพ้อถึงเรื่องต่างๆและจบที่ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอต้องตาย และเมื่อไม่ให้เกิดภาพหลอนเช่นนั้นอีก โคโตโกะจะกรีดข้อมือตัวเองทุกครั้งเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา และกลบอาการประสาทหลอนที่เธอกำลังเป็นอยู่ด้วยความเจ็บปวดทุกทรมานของร่างกายแทน โคโตโกะเอาลูกชายของเธอไปฝากไว้กับคนในครอบครัว เพื่อให้หนีให้ห่างจากอันตราย และพยายามตั้งสติดึงชีวิตเดิมๆของเธอให้กลับคืนมา วันวานที่เธอเคยเป็นในช่วงที่ยังไม่มีลูก ไม่มีความเครียด ไม่ป่วยวิกลจริต จนกระทั่งในที่สุดเธอก็พบผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า ทานากะ ซึ่งพร้อมที่จะรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเป็น เขาบอกกับโคโตโกะว่าเขาเฝ้าติดตามชีวิตของเธอมาโดยตลอด เข้าใจในความทุกทรมานของเธอเป็นอย่างดี โคโตโกะรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกปลดปล่อยจากความเครียดที่กำลังเป็นอยู่ ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เป็นไปอย่างแปลกประหลาดและน่าพรั่นพรึงที่สุด และแทนที่อาการวิกลจริตของโคโตโกะจะดีขึ้น เธอกลับต้องพบว่ามันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆหลังจากได้รู้จักทานากะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยคิดมันกำลังจะเกิดขึ้นจริง อาการวิกลจริตจิตตกของโคโตโกะทำให้เธอเริ่มน่ากลัวมากขึ้นไปอีก และท้ายที่สุดเธอก็เริ่มมองเห็นว่า "ปัญหาทั้งหมดทั้งมวล ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากคนๆนี้ทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็คือ ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอนั่นเอง"
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว หนังให้อารมณ์ดราม่าเหงาๆและจิตตกแบบหนักๆไปกับตัวละครอย่างโคโตโกะ ที่พยายามเลี้ยงดูลูกตัวเล็กๆของเธอเพียงลำพัง ไปพร้อมๆการต่อสู้กับอาการวิกลจริตของเธอเอง ซึ่งหลายๆครั้งทุกอย่างดูเหมือนว่าจะปกติดี แต่ต่อมาก็เหมือนละลอกคลื่นลูกใหญ่ ที่ซัดทั้งโคโตโกะและคนดูให้หงายหลังตึง ไปกับอาการป่วยจิตของเธอซึ่งกำลังหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ และการที่ได้พบกับผู้ชายอย่างทานากะ ก็เป็นอะไรที่ยิ่งทำให้เธออาการหนักเข้าไปอีก (เวรแท้ๆ)
ระดับความสยอง 5 ดาวเต็ม ผมเคยพูดหลายครั้งหลายหนแล้ว พร้อมๆกับเตือนตัวเองหลายครั้งกับหนังสยองขวัญจากประเทศนี้ (ประมาณว่าให้เตรียมทำใจไว้ก่อน) สุดท้ายแล้วก็ไม่วายจิตตกหนักตามตัวหนังไปด้วย เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยความวิกลจริตจิตตกของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งทั้งหนักหน่วงรุนแรงและป่วยเกินคำบรรยาย ที่แย่กว่านั้นเธอยังมีลูกน้อยวัยทารกซึ่งเป็นภาระเลี้ยงดูของเธอ แล้วลองคิดดูเวลาเธอสติหลุดไปแล้วล่ะ เวลาเธอคลั่งคุมสติตัวเองไม่อยู่ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กทารกตัวน้อยๆ ยิ่งฉากสุดท้ายนี่ขอบอกเลยว่า "ดูแล้วจิตตกแบบหนักๆไม่แนะนำดู หากสภาพจิตใจไม่แข็งแรง"
ระดับความน่าดู 4 ดาว ผลงานจากฝีมือผู้กำกับ Shinya Tsukamoto ผู้ซึ่งเคยสร้างผลงานสยองขวัญที่โครตจะดูเข้าใจยากสุดๆเรื่องหนึ่งของวงการ ภาพยนต์อย่าง Tetsuo The Iron Man (หากใครเคยดู จะรู้ว่าผมไม่ได้พูดเกินความจริงเลยแม้แต่น้อย - -'') ซึ่งในครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับผลงานหนังเรื่องนี้ โดยได้ ค็อคโค ดารานักร้อง นักแต่งเพลง มารับบทแสดงเป็นสาววิกลจริตอย่างโคโตโกะ (ไม่ได้ว่านะครับ แต่หน้าตาถือให้กับบทนี้สุดๆ ไม่เชื่อก็ดูเองเถอะครับ - -'') โดยรวมแล้ว ดูแล้วไม่ค่อยได้แง่คิดอะไรมากมายเท่าไหร่ นอกซะจากความป่วยที่ได้รับมาแบบเต็มๆจากหนังเรื่องนี้ ถึงแม้ฉากโหดๆจะมีไม่มาก แต่ก็แรงแบบสุดกู่เลยทีเดียว
ลิ้งตัวหนังนะครับ ซับ ENG
Kotoko 2011 โคโตโกะ
วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Severance 2006 ทัวร์สยองต้องเอาตัวรอด
ว่ากันว่าคนเรายังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ 2-3 นาที หากหัวของคุณถูกตัดหลุดออกจากบ่า นั่นก็หมายความว่า "คุณจะสามารถมองเห็นเลือดที่พุ่งกระฉูดออกจากลำคอของตัวเองได้ ทั้งๆที่หัวของคนถูกตัดจนขาดกระเด็น" Severance หนังสยองขวัญสุดโหดฮาและตลกร้ายๆจากประเทศอังกฤษ เรื่องราวของการจัดทัวร์ทริปสุดระห่ำ หลังจากที่บริษัทค้าอาวุธขนาดใหญ่ พาลิเสด ดีเฟนซ์ ได้จัดทัวร์ฉลองขอบคุณให้กับพนักงานขายคนสำคัญที่สามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้า พวกเขาถูกพาตัวมายังภูเขาแถบๆชายแดนเชื่อมต่ออังกฤษกับฮังการี่ กะว่าจะให้ฉลองปาร์ตี้กันสุดเหวี่ยงกันที่นั่น แต่ทว่าปัญหาก็บังเกิด เมื่อถนนที่เชื่อมเส้นทางที่พวกเขากำลังจะไปนั้นถูกตัด มิหนำซ้ำยังทะเลาะกับโชเฟอร์คนขับรถทัวร์อีกตะหาก (พูดกันคนละภาษา นัยๆว่าโชเฟอร์บอกห้ามไปทางลัดเด็ดขาดเพราะโครตอันตราย แต่ฝั่งพนักงานไม่ยอมฟัง ดึงดันที่จะไปให้ได้ โชเฟอร์เลยจัดการทิ้งทุกคนไว้ทีข้างทางเสียเลย ประมาณว่าตายไปกันเองเถอะสู ตูไม่ขอเกี่ยว - -'') หลังจากที่ถูกทิ้งลงข้างทางทั้งหมดจึงตัดสินใจเดินต่อไปตามเส้นทางลัดที่มีในแผนที่ โดยพวกเขาหารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังเดินมุ่งหน้า เข้าสู่รังผู้ก่อการร้ายพร้อมอาวุธครบมือ (อาวุธก็ไม่ได้มาจากไหนไกล ยี่ห้อ พาลิเสด ดีเฟนซ์ นั้นแล) ที่พวกมันทั้งบ้าเลือดและกระหายสงครามอย่างเต็มที่ งานนี้จากทริปทัวร์สุดสนุกจึงกลายเป็นต้องพากันหนีตายกันอย่างเพลิดเพลินแทนซะงั้น...
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว นอกจากความโหดและมุขตลกร้ายๆสุดฮาแล้ว ตัวหนังยังมีดีในเรื่องของบทบาทของตัวละคร ถึงแม้แต่ละคนจะดูออกเพี้ยนๆ แต่ทว่าก็ไม่มีใครทำตัวโง่ๆเลยสักคน เรียกว่ากว่าผู้ร้ายจะฆ่าได้ก็เล่นเอายากเหมือนกัน แต่ก็ยกเว้นบางฉากที่ผู้กำกับจงใจให้มันโง่เอาฮาเท่านั้นเอง ซึ่งมันก็ได้ผลสุดๆ เพราะว่ามันฮาขี้แตกขี้แตนกันไปเลย
ระดับความสยอง 4 ดาว ด้านความโหดระทึกก็ไม่ใช่เล่นๆ ดูแล้วทั้งโหดฮาและหวาดเสียวไปพร้อมๆกัน ชิ้นส่วนขาดกันกระจาย หัวขาด ขาขาด นอกจากผู้ก่อการร้ายสุดคลั่งแล้ว ยังมีทั้งหลุมพราง กับระเบิด กับดักหมี และอื่นๆอีกเพียบที่วางเรียงรายอยู่ในป่า
ระดับความน่าดู 4 ดาว หากคุณคิดว่านี่คือหนังไล่เชือดธรรมดาๆไม่มีอะไร บอกได้คำเดียวเลยครับว่าคุณคิดผิดแล้ว ตัวหนังมีส่วนผสมทั้งความโหดระทึกขวัญและมุขตลกแสบๆที่เรียกเสียงฮาได้อยู่เรื่อยๆ ตัวละครก็ฉลาดในการเอาตัวรอดใช้ได้เลย หลังจากที่ดูเปรียบเทียบกันระหว่างพากย์ไทยกับแบบซับไทย ต้องบอกว่าอย่างหลังฮาหนักกว่ากันมากมาย เพราะด้วยน้ำเสียงประกอบกับลีลาท่าทางในการพูด ขอบอกว่ามันฮาแตกกว่าหนังคอมเมดี้บางเรื่องเสียอีก มิหนำซ้ำมันยังมาในรูปแบบหนังสยองขวัญไล่เชือดที่เราๆชอบอีกด้วย
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พร้อมซับไทย
Severance 2006 ทัวร์สยองต้องเอาตัวรอด
วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : We Need to Talk About Kevin 2011 คำสารภาพโหดของเควิน
"ทำไมลูกจึงฆ่าทุกคน" คำถามที่ดังก้องอยู่ในหัวอกของคนเป็นแม่ ที่กำลังเผชิญกับชะตากรรมอันสุดสะเทือนใจที่สุดในชีวิต หลังจากสามีและลูกสาวตัวน้อยเพิ่งถูกฆาตกรรมเสียชีวิต ด้วยฝีมือลูกชายคนโตของเธอเอง อีกทั้งเขายังจับเพื่อนๆนักเรียนทุกคนขังไว้และลงมือสังหารฆาตกรรมหมู่ทุกๆคน We Need to Talk About Kevin เรื่องราวของ เอวา คุณแม่ซึ่งทิ้งความฝันที่ตัวเองรักและหันมาทำใจยอมรับกับสภาพความเป็นแม่ หลังจากเธอรู้ว่าตั้งท้องกับสามีของเธอ เควินคือลูกชายคนแรกที่เกิดขึ้นมาก่อน ตามมาด้วยน้องสาวอีกคนคือซีเลีย 15 ปีต่อมา เอวาต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอไปทั้งหมด และถูกตราหน้าว่าเป็นแม่ของฆาตกร หลังจากที่เควินลูกชายของเธอลงมือสังหารหมู่เพื่อนๆในชั้นเรียนของเขาหลายสิบคน อีกทั้งยังฆ่าพ่อและน้องสาวแท้ๆของเขาเองอีกด้วย หลังจากที่ถูกประฌามจากสังคมว่าสั่งสอนลูกยังไงให้กลายเป็นคนแบบนี้ เอวาเฝ้าถามคำถามกับตัวเองตลอดว่า เควินนั้นเป็นฆาตกรโรคจิตจริงๆหรอ หรือว่าเป็นเพราะการอบรมเลี้ยงดูของเธอกันแน่ การที่เอวาให้กำเนิดเควินในช่วงเวลาที่เธอยังไม่พร้อม (ยังไม่ทิ้งความฝันและยังไม่พร้อมรับภาระหน้าที่ความเป็นแม่) นั่นเท่ากับว่าเธอไม่ได้สนใจหรือใส่ใจในตัวเควินเท่าที่ควร ไม่ได้สั่งสอนไม่ได้พูดบอกหรืออบรม ผิดก็แค่ด่าหรือตี แต่ไม่อธิบายว่าเพราะอะไรเควินจึงผิด เควินเติบโตมาในความรู้สึกแบบนั้นมาทั้งชีวิตของเขา ซึ่งต่างจากซีเลียน้องสาว ซึ่งเกิดมาในช่วงที่ทุกๆอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แม่พร้อมจะเลี้ยงดูเพราะมีประสบการณ์แล้ว เวลาผ่านไปนานจนทำให้เธอทิ้งความฝันและหันไปเป็นแม่อย่างเต็มตัว แน่นอนว่าทุกๆอย่างล้วนแล้วแต่ผ่านการเฝ้ามองดูจากเควินอยู่ห่างๆ ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้ความรักจากครอบครัวเช่นเดียวกันกับน้องสาว การที่เควินเป็นฆาตกรนั้นจริงๆแล้วเพราะตัวเขาเองหรือเป็นเพราะแม่อย่างเอวากันแน่ และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดใครคือคนต้องรับผิดชอบ...
ระดับของเนื้อหา 5 ดาวเต็ม หนังสร้างมาจากงานเขียนของ Lionel Shriver ในชื่อเรื่องเดียวกันกับตัวหนัง ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง ของเหตุวัยรุ่นฆาตกรรมหมู่ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาหลายๆเหตุการณ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสาเหตุเบื้องลึกเบื้องหลังในการกระทำของตัวฆาตกรแต่รายละรายแตกต่างกัน อาจมีปมปัญหาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่แยกทาง ถูกกลั่นแกล้งโดนรังแก และรวมไปถึงการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนที่ผิดๆ จนกระทั่งเกิดโศกนาฎกรรมสุดสลดเช่นนี้ และตัวหนังก็ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดออกมาได้อย่างละเอียดครบถ้วน
ระดับความสยอง 3 ดาว หนังเน้นหนักไปที่ความเป็นดราม่าทุกระทมของตัวละครหลักอย่างเอวา รวมไปถึงเล่ารายละเอียดต่างๆมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่ชี้ต้นสายปลายเหตุในการสังหารหมู่ของเควิน ว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป จนกระทั่งในที่สุดฉากสุดท้ายสุดสลด เมื่อเควินตัดสินฆ่าทั้งพ่อและน้องสาวของตัวเอง จากนั้นไปรวมงานเลี้ยงฉลองของโรงเรียนและขังเพื่อนๆทุกคนของเขา ก่อนลงมือสังหารโหดทุกๆคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ระดับความน่าดู 4 ดาว หนังใช้เวลาในการสร้างตั้งแต่เริ่มต้นจนออกฉายรวมกันแล้วถึง 6 ปี (ถือว่านานมากๆเลยทีเดียว) ได้รับเกียรติเข้าฉายในงานเทศกาลหนังเมืองคานน์ในปี 2011 สร้างกระแสความฮือฮาในหมู่ผู้ชมรวมไปถึงเสียงวิจารณ์หนาหูว่า ตัวหนังนั้นตีแผ่เรื่องราวได้ค่อนข้างสมจริง และมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกครอบครัว อีกทั้งตัวหนังยังกวาดรางวัลมาแล้วมากมายหลายสาขา ดูแล้วไม่เสียเวลาและได้ในสมองคิดตามไปตลอดทั้งเรื่อง ถึงแม้สุดท้ายแล้วตัวหนังจะไม่เฉลยว่าทั้งหมดที่เควินทำลงไปเป็นเพราะแม่หรือเพราะตัวเขาเอง แต่ทว่ามีประโยคหนึ่งที่เควินพูดเอาไว้ว่า "ทุกคนอยากออกทีวีเพื่อเป็นคนสำคัญ ผมเองก็อยากเป็นคนสำคัญ และการเรียนก็ไม่ช่วยทำให้ผมเป็นคนสำคัญได้" พูดง่ายๆก็คือเควินไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า "คนที่สำคัญคนหนึ่งของครอบครัวเท่านั้นเอง"
ตัวหนังนะครับ ^ ^ พร้อมซับไทย
We Need to Talk About Kevin 2011 คำสารภาพโหดของเควิน
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Review : Our Town 2007 เมืองอำมหิต...ดิบล่าดุ
จะเป็นยังไงเมื่อฆาตกรต่อเนื่องสุดอำมหิต กำลังถูกลูบคมผลงานของตัวเอง ด้วยฝีมือฆาตกรอีกคน ซึ่งเป็นฆาตกรเลียนแบบผลงานของมัน มิหนำซ้ำยังโหดกว่าและอำมหิตกว่าต้นฉบับหลายเท่าตัวนัก Our Town เรื่องราวของคดีฆาตกรรมสุดสะพรึงและชวนผวาของเกาหลี เมื่อมีคนพบศพหญิงสาวจำนวนมากถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ด้วยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ศพหญิงสาวทั้งหมดถูกนำไปทิ้งไว้ตามจุดต่างๆที่ผู้คนเห็นกันได้ชัด พวกเธอถูกพันธนาการและจับตรึงเอาไว้คล้ายกับว่าเป็นการไถ่บาปสาหัสที่พวกเธอแต่ละคนได้ทำลงไป อีกจุดหมายหนึ่งก็เพื่อประกาศให้ทุกคนได้รับรู้และจงกลัว เพราะพวกเธอนั้นตายจากน้ำมือของฆาตกรต่อเนื่องสุดอำมหิตคนเดียวกัน ในการตามล่าตัวฆาตกรรายนี้เป็นหน้าที่ของนักสืบแจซิน ซึ่งเขาแทบจะพลิกแผ่นดินเพื่อหาตัวฆาตกร แต่ทว่าสิ่งที่เขายังไม่รู้ก็คือฆาตกรนั้นอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เขาคิด ทั้งหมดเป็นฝีมือของเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเขา คยองจู นักเขียนนวนิยายสยองขวัญไส้แห้ง ผู้มีอดีตที่สุดแสนจะเจ็บปวด เขาสร้างงานเขียนสุดสยดสยองมาจากแรงบันดาลใจในการลงมือสังหารเหยื่อแต่ละคน ขณะที่ความจริงกำลังใกล้เข้ามาและงานเขียนของเขาก็ใกล้เสร็จ แต่แล้วปรากฎว่ากลับมีเหยื่อรายใหม่ๆตายเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการฆ่าที่เหมือนกับคยองจูไม่มีผิดเพี้ยน แต่ทว่านั่นกลับไม่ใช่ฝีมือของเขา เป็นฆาตกรอีกคนที่เกิดขึ้นมาทีหลังแถมยังลอกเลียนแบบวิธีการฆ่า รวมไปถึงเหยื่อแต่ละรายก็ไม่จำเพราะเจาะจงว่าต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น จากเหตุการณ์นี้ยิ่งสร้างความหวาดผวาและเพิ่มดีกรีความน่ากลัวให้กับฆาตกรที่คยองจูสร้างขึ้นมาอีกเป็นทวีคูณ แต่นั่นยิ่งกลับทำให้คยองจูไม่พอใจเป็นอย่างมาก เหมือนถูกตบหน้าด้วยฝีมือฆาตกรอีกคน ที่ลอกเลียนแบบผลงานของเขาได้อย่างสุดห่วยและไม่มีเซ้นต์สิ้นดี ว่าแล้วคยองจูจึงเริ่มออกตามหาตามล่าฆาตกรที่บังอาจมาลูบคมของเขาเพื่อสั่งสอนให้มันรู้ว่า ต้นฉบับจริงๆนั้นน่ะ...เขาทำกันยังไง
ระดับของเนื้อหา 4 ดาว เนื้อเรื่องสุดยอดแห่งความอำมหิตจริงๆครับ สร้างมาให้ฆาตกรเป็นตัวเอก จากนั้นต้องมาไล่ล่ากับตัวฆาตกรอีกคนซึ่งลอกเลียนแบบผลงานของตัวเอง โอ้...พระเจ้า ! ความซวยจะตกอยู่ที่ใครล่ะทีนี้ (ถ้าไม่ใช่เหยื่อ - -'') หนังค่อนข้างยาว แต่ก็มีจุดน่าสนใจคอยดึงดูดคนดูอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความระทึก รวมไปถึงฉากโหดๆที่มีอยู่อย่างมากมายทั้งเรื่อง
ระดับความสยอง 4 ดาว สุดๆแล้วครับกับความโหดของหนังเรื่องนี้ ขึ้นชื่อว่าฆาตกรต่อเนื่องแน่นอนว่ามันฆ่าคนเยอะอยู่แล้ว นี่มีถึงสองคนอีกตะหาก มิหนำซ้ำยังถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างจัดหนักจัดเต็ม แบบดูแล้วสะอึกกันเลยทีเดียว เช่นฉากการฆ่าแบบดิบๆโหดๆสุดอำมหิต กระหน่ำแทงแบบไม่มียั้ง เชือดคอด้วยเศษแก้ว รัดคอจนขาดอากาศหายใจ ทุกๆฉากจะเห็นเราเห็นแบบจะๆไม่มีหลบมุมกล้อง นี่แค่น้ำจิ้มนะเนี่ย
ระดับความน่าดู 4 ดาว เป็นหนังสยองขวัญปนระทึกสุดโหดที่ไม่ได้เข้าบ้านเราอีกเรื่อง ด้วยความดิบและโหดแบบสุดๆ ถึงแม้เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้เข้มข้นจัดๆแบบหนังระทึกขวัญเกาหลีหลายๆเรื่อง แต่ก็มีความโดดเด่นและแปลกใหม่พอสมควร ที่ให้ฆาตกรไล่ล่าฆาตกรด้วยกันเอง ประมาณว่าโหดแลัวจิตแล้ว ยังต้องเจอโหดกว่าและดิบกว่าอีก (อะไรจะขนาดนั้น) ไม่มีผิดหวังครับสำหรับคอหนังระทึกขวัญโหดๆ ดูได้เลยเรื่องนี้
ตัวหนังนะครับ ^ ^
Our Town 2007 เมืองอำมหิต...ดิบล่าดุ
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)












































