วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

Review:Arctic 2018 อย่าตาย


              ว่าที่สุดยอดภาพยนตร์เอาชีวิตรอดแห่งปี Arctic เรื่องราวของ เอช โอเวอร์การ์ด ชายผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกบนทะเลอาร์คติกอันแสนหนาวเหน็บที่มีอุณภูมิติดลบตลอดทั้งปี ซึ่งเขาได้พยายามดิ้นรนต่อสู้เอาชีวิตด้วยการอาศัยอยู่ในซากของเครื่องบิน และหาอาหารด้วยการตกปลาใต้พื้นน้ำแข็ง จนกระทั่งความหวังของเอชก็เป็นจริง เมื่อมีเฮลิคอปเตอร์ลำเล็กๆโผล่มาและพยายามลงจอดเพื่อช่วยเหลือเขา แต่ทว่าด้วยสภาพอากาศที่เลวร้าย ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถต้านทานแรงลมได้ และตกลงต่อหน้าต่อตาของเอช ทำให้นักบินที่มาด้วยเสียชีวิตคาที่และอีกคนอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน เอชในตอนนั้นที่เสียสติจนแทบทำอะไรไม่ถูก ได้ตัดสินใจช่วยชีวิตนักบินสาวอีกคนออกมา และพยายามหยิบจับสิ่งของที่พอจะใช้งานได้ติดตัวมาด้วย ซึ่งเขาได้มารู้ในภายหลังว่าทั้งสองคนที่มากับเฮลิคอปเตอร์ ไม่ใช่ทีมช่วยเหลือเขาแต่อย่างใด แต่พวกเขาทำงานกันอยู่ที่นี่ ซึ่งในแผนที่ได้ระบุสถานที่ทำงานของทั้งสองเอาไว้ว่ามันตั้งอยู่อีกฝากหนึ่งของนรกน้ำแข็งแห่งนี้ ซึ่งเอชจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะเลือกที่จะอดทนรอต่อไป หรือเขาควรตัดสินใจออกเดินทางไปที่นั่นเพื่อเอาชีวิตรอด ท่ามกลางความเลวร้ายของสภาพอากาศและสัตว์ร้ายประจำท้องถิ่นอย่างหมีขั้วโลก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เอชจะสามารถเอาชีวิตรอดไปถึงที่นั่น แถมเขายังต้องคอยดูแลนักบินที่บาดเจ็บอีกหนึ่งชีวิตไปตลอดเส้นทางหฤโหดอีกด้วย


ระดับของเนื้อหา
         ดูแล้วเครียด อึดอัด กดดัน ว่าตัวเอกของเราจะเอาชีวิตรอดไปได้ยังไงกับสภาพอากาศอันสุดเลวร้ายแบบนี้ มิหนำซ้ำยังแบกเอาภาระมาให้อย่างนักบินสาวชาวไทย (อันนี้ในเรื่องเธอเป็นคนไทยนะครับ แต่ตัวจริงไม่ใช่) ซึ่งลำพังแค่ตัวเองก็ยังแทบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว ทั้งสภาพอากาศ หมีขาวสุดโหด อุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่ถาโถมเข้ามาแบบไม่ให้มีหยุดพักหายใจ นี่ถ้าใจไม่แกร่งจริงๆ ผมว่าแกคงตายไปตั้งแต่เครื่องบินแล้ว ยอมใจแกจริงๆ สมกับชื่อเรื่องว่า "อย่าตาย"
      โดยส่วนตัวถ้าถามผมในแง่ของความตื่นเต้นลุ้นระทึก ต้องบอกตรงนี้เลยครับว่าหนังเรื่องนี้มีให้เราไม่มากอย่างที่คิด ฉากการต่อสู้กับหมีขาวก็เพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แต่ทว่าถ้าถามถึงเรื่องราวของการเอาชีวิตรอดแล้วล่ะก็ เรื่องนี้ผ่านโดยไม่ต้องมีข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้นครับ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากรู้ว่าตัวเอกของเราจะผ่านพ้นสถานการณ์ในแต่ละวันไปได้ยังไง เพราะที่นี่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะทั้งหมด สภาพอากาศก็โคตรเลวร้าย ดูไปก็ทั้งลุ้นทั้งเชียร์ให้ตัวเอกรอดชีวิตกลับบ้านไปให้ได้
 ระดับความน่าดู
           Arctic เป็นหนังที่ได้เสนอชื่อเข้าประกวดรางวัล Camera d’Or (รางวัลเกี่ยวกับการถ่ายภาพ) ในเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปี 2018 และเมื่อหนังจบก็ได้รับการลุกขึ้นยืนปรบมือชื่นชมจากผู้ชมยาวนานถึง 10 นาที ซึ่งการันตีได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ตัวหนังอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของความเป็นดราม่าและความพยายามที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปของคนสองคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากสุดท้ายของเรื่อง ที่ถ้าผมตะโกนเข้าไปในหนังได้ก็คงตะโกนไปแล้ว แม่ม!!บีบหัวใจเหลือเกิน จัดว่าเป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลยครับ แต่ถ้าใครมองหาหนังที่เน้นไปทางตื่นเต้นระทึกใจ เรื่องนี้คุณก็อาจจะไม่ชอบมันก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น