วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Review:The Gift 2015 ของขวัญวันตาย


          The Gift ภาพยนต์ลึกลับระทึกขวัญสุดสะพรึง ที่สร้างความหวาดวิตกให้กับคนดูโดยที่ไม่ใช่เลือดแม้แต่หยดเดียว เรื่องราวของคู่รักไซม่อนและโรบิ้น ภายหลังที่กำลังจะรับตำแหน่งใหญ่ในบริษัท พวกเขาเลือกที่จะย้ายกลับมาอยู่ที่ Hollywood Hills บ้านเกิดของไซม่อน ที่นั่นสงบร่มเย็นและเต็มไปด้วยผู้คนที่เป็นมิตร เป็นที่ที่เหมาะแก่การสร้างครอบครัวและมีลูกด้วยกัน นอกจากนั้นที่นั่นยังทำให้พวกเขาได้พบกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยมของไซม่อนอย่าง กอร์โด เขาดูเป็นคนจิตใจดีและชอบส่งของขวัญมาให้ทั้งคู่อยู่เป็นเป็นประจำ แต่นั่นกลับสร้างไม่พอใจให้กับไซม่อนเป็นอย่างมาก เพราะกอร์โดชอบแอบเข้ามาในบ้านตอนที่เขาไม่อยู่เสมอๆ อีกทั้งเมื่อสมัยเรียนกอร์โดเองจะมีฉายาว่าจอมเพี้ยน ไม่รู้วันดีคืนดีกอร์โดจะเข้ามาทำมิดีมิร้ายกับเมียสาวสวยของเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ว่าแล้วไซม่อนจึงพูดกับกอร์โดว่าอย่าเข้ามายุ่งและก้าวก่ายกับครอบครัวของพวกเขาอีก มันเป็นคำพูดที่ฟังดูรุนแรงอีกทั้งยังตัดสัมพันธ์แบบไร้ซึ่งเยื่อใย โรบิ้นรู้สึกว่าที่ไซม่อนทำมันดูรุนแรงเกินไปและกอร์โดอาจจะเสียใจมาก วันต่อมากอร์โดเริ่มคุกคามครอบครัวของไซม่อน ด้วยการทำตัวลับๆล่อๆแล้ววางยาปลาพวกเขาตายจนหมด (ปลาเองก็เป็นของขวัญจากกอร์โด) ด้วยความหวาดวิตกโรบิ้นพยายามสืบค้นข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับกอร์โด ว่าในสมัยก่อนเขาเป็นคนยังไงกันแน่ทำไมถึงคนถึงเรียกเขาว่าจอมเพี้ยน แท้จริงแล้วกอร์โดไม่ใช่จอมเพี้ยนอย่างที่คนอื่นพูดกัน เขาเป็นเพียงเด็กขี้แยธรรมดาที่มักจะถูกหัวโจกอย่างไซม่อนแกล้งอยู่เป็นประจำ เคยมีครั้งหนึ่งที่ไซม่อนกุเรื่องว่ากอร์โดมีอะไรกันกับรุ่นพี่ที่เป็นผู้ชาย ซึ่งผลให้กอร์โดโดนพักการเรียนยาว มิหนำซ้ำพ่อแท้ๆของเขายังต้องติดคุกในข้อหาพยายามฆ่าลูกในไส้ เนื่องจากรับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาเป็นเกย์ เรื่องปั้นน้ำเป็นตัวนี้ส่งผลต่อเนื่องมาให้กอร์โดในระยะยาว เขาโดนรังเกียจจากเพื่อนฝูงและไม่มีใครให้งานเขาทำ ปัจจุบันกอร์โดเป็นนักแสดงปาหี่ที่อาศัยรับงานตามคลับตามบาร์เพื่อหาเลี้ยงชีวิต ไซม่อนสามารถเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของกอร์โดด้วยคำพูดที่ว่า "ทุกอย่างไม่ได้เป็นเรื่องจริง" แต่ไซม่อนกลับไม่พูดและเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเอาไว้ถึง 25 ปี และเมื่อถึงจุดที่เรื่องราวเริ่มบานปลาย โรบิ้นพยายามเกลี่ยกล่อมให้ไซม่อนไปขอโทษกอร์โดในสิ่งที่ทำลงไป เพื่อเธอและเพื่อครอบครัว แต่สิ่งที่ไซม่อนทำไปทำให้นั่นกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เขาตามหากอร์โดจนพบแล้วซ้อมเขาจนกระอัก แถมยังยื่นคำขาดห้ามกอร์โดเข้าใกล้พวกเขาอีกถ้าไม่อยากเจ็บตัว แต่ปฎิกิริยาของกอร์โดนั้นมันเงียบสนิท เขาเพียงแค่พูดเบาๆว่า "มันสายไปแล้ว" อะไรคือความหมายของสิ่งที่กอร์โดพูด และคนอย่างไซม่อนจะต้องทุกข์ทรมานเพราะมันไปจนวันตาย...


ระดับของเนื้อหา
       The Gift แปลว่า ของขวัญ เชื่อว่าใครหลายคนคงชอบและต้องรู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับมัน แต่กลับกันถ้ามันส่งมาจากคนที่เราเคยทำร้ายเขาล่ะอะไรจะเกิดขึ้น? ตัวหนังเอาจุดนี้มาใช้และเล่นกับความหวาดวิตกของตัวละคร ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในกล่องมันคืออะไรกันแน่ และไม่ใช่แค่ตัวละครเพียงอย่างเดียว สิ่งนั้นยังส่งผลมาถึงคนดูให้ร่วมสะพรึงไปกับตัวละครเมื่อเขารู้ว่าของขวัญนั้นคือ...
ระดับความสยอง
         ตัวหนังสร้างความสะพรึงให้กับคนดูชนิดที่ว่าไม่ต้องมีเลือดสักหยดเดียว เป็นความน่ากลัวในรูปแบบของจิตวิทยา ของขวัญแต่ล่ะชิ้นที่กอร์โดส่งให้ สำหรับโรบิ้นแล้วมันน่ารักและเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ แต่สำหรับไซม่อนที่เคยสร้างวีรกรรมเลวระย่ำตำบอนให้กับกอร์โด ของขวัญพวกนี้ไม่ต่างไปจากคมมีดที่เคลือบน้ำผึ้ง มันทั้งน่ากลัวและสุดแสนจะอันตราย เพราะไซม่อนกลัวว่ากอร์โดจะเอาคืนเขาไม่วันใดก็วันนึง แต่ไซม่อนก็หยิ่งในศักดิ์ศรีจนเกินจะเอ่ยคำว่า"ขอโทษ"ออกไป และเขาต้องชดใช้กรรมที่ทำเอาไว้ในอดีต
 ระดับความน่าดู
          ถ้าหากคุณเป็นคนชอบหนังระทึกขวัญแนวจิตวิทยาอยู่แล้ว สำหรับหนังอย่าง The Gift ก็จัดว่าเป็นหนังจิตวิทยาขั้นสูงอีกเรื่องนึงที่สร้างแรงกดดันให้คนดูได้อย่างมหาศาล เป็นความอันตรายสุดร้ายกาจที่แฝงมาด้วยคราบของรอยยิ้ม ถ้าจะให้ยกตัวอย่างแบบชัดๆก็คงเป็นประมาณว่า "ผี" เรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วใช่ไหมครับว่ามันน่ากลัว แต่มันดันยิ้มแล้วหันมาทางเรา นี่แหละครับที่ผมจะพูดถึง มันเป็นรอยยิ้มที่น่าสะพรึงจนขนหัวลุกเลยทีเดียว ซึ่งหากใครที่ไม่ชอบหนังแนวๆนี้ก็อาจจะเบื่อได้ เพราะทั้งเรื่องเต็มไปด้วยบทสนทนาและการแสดงอารมณ์ของตัวละคร ไม่ได้มีฉากหวือหวาหรือเลือดสาดแต่อย่างใด ส่วนตัวผมว่าหนังเรื่อง "น่ากลัวกว่าผีเยอะเลย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น