วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Review :Gravity 2013 มฤตยูแรงโน้มถ่วง


        สุดยอดหนังไซไฟ-ระทึกขวัญที่ดีที่สุดในปี 2013 ตัวหนังกวาดเสียงชมรวมไปถึงคำวิจารณ์ได้อย่างมหาศาล เข้าชิงถึง 10 รางวัลออสก้าร์และคว้ามาได้ถึง 7 รางวัล (พระเจ้า!) Gravity เรื่องราวของ ดร.ไรอัน สโตน วิศวกรผู้ออกแบบเครื่องมือแพทย์ ซึ่งหลังจากเธอสูญเสียลูกสาวที่เป็นจุดมุ่งมั่นเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตไปแล้ว เธอรับอาสาเข้าร่วมภารกิจขึ้นกระสวยอวกาศเป็นครั้งแรก หน้าที่ของดร.ไรอันก็คือการซ่อมบำรุงกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (อันนี้มีอยู่จริงนะครับและมีการซ่อมบำรุงจริงอย่างที่หนังหยิบเอาเหตุการณ์มา แต่ต่างกันตรงที่ว่าเรื่องจริงกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลไม่ได้ระเบิดเหมือนในหนัง และยังใช้งานได้ตามปกติจนหมดอายุไขของมัน) ภารกิจจนี้นำโดย แมตต์ โควาลสกี้ นักบินอวกาศรุ่นเก๋า ผู้กำลังคาดหวังจะทำลายสถิติสเปซวอล์กของนักบินอวกาศชาวรัสเซีย (สเปซวอล์กคือระยะเวลาการท่องอวกาศ) แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังทำงานกันอยู่นั้น จู่ๆพวกเขาก็ได้รับแจ้งจากศูนย์บัญชาการฮุสตันว่าให้ยกเลิกภารกิจอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุในการยิงทำลายดาวเทียมเก่าของรัสเซีย มันระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆและหลุดเข้ามาในวงโคจรของโลก ส่งผลให้อีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ไปเศษขยะอวกาศนับล้านๆชิ้นจะพุ่งตรงมายังกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล สิ้นเสียงแจ้งเตือนจากฮุสตันเพียงไม่นาน ยานอวกาศเอกซ์พลอเรอร์ที่ทั้งสองคนเดินทางมาก็ถูกทำลายจนพินาศย่อยยับ ด้วยเศษซากจากดาวเทียมของรัสเซียที่เพิ่งถูกทำลาย นักบินอวกาศทุกคนตายหมด เหลือเพียงแค่ดร.ไรอันกับโควาลสกี้เพียงสองคนเท่านั้น ในสภาพชั้นบรรยายที่ไร้ซึ่งแรงโนมถ่วงและถังออกซิเจนของพวกเขาก็กำลังจะหมดลงในไม่ช้า หนทางรอดของทั้งคู่ก็คือการลอยตัวไปหากระสวยอวกาศที่ใกล้ที่สุดและใช้ยานฉุกเฉินเพื่อกลับสู่โลก...ฟังดูเหมือนมันจะง่าย หากเพียงแต่ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานที่ซึ่งไร้แรงโน้มถ่วงของโลก ไม่มีอากาศ ไม่สิ่งมีชีวิตใดอาศัยอยู่ได้ พวกเขาเดินทางไปข้างหน้าได้ด้วยไอพ่นเล็กๆที่ติดอยู่กับชุดนักบินอวกาศ ซึ่งมันคงจะใช้ได้อีกไม่นานต่อจากนี้ อีก 90 นาที เศษขยะอวกาศจะหมุนเวียนกลับมาอีกรอบและหากพวกเขาเดินทางไปไม่ถึงกระสวยอวกาศใกล้ๆหรือไอพ่นเล็กๆหมดลงก่อน พวกเขาก็จะล่องลอยอยู่ในอวกาศอย่างนั้นตลอดกาลหรือไม่กระถูกกระแทกจากเศษขยะอวกาศจนร่างแหลกไม่มีชิ้นดี


ระดับของเนื้อหา
          ไม่น่าเชื่อว่าหนังจะใช้ตัวแสดงเพียงแค่สองคนเท่านั้น แต่กลับทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับ 7 รางวัลออสก้าร์ ถือว่าเป็นหนังไซไฟ-ระทึกขวัญที่ประวัติศาสตร์จะต้องบันทึกเอาไว้เลยทีเดียว ทั้ง Sandra Bullock และ George Clooney จัดว่าแสดงออกมาได้อย่างสมบทบาท ลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นเรื่องจนวินาทีสุดท้ายของเรื่องเลยจริงๆ และถ้าหากตั้งใจดูดีๆ ตัวหนังยังให้อะไรมากกว่าแค่ความสนุกเพียงอย่างเดียว มันสอดแทรกเรื่องความหวังและกำลังใจเอาไว้ด้วยครับ เกิดเป็นคนทั้งทีจะยอมแพ้ง่ายๆได้ยังไง ตราบที่ยังมีลมหายใจ ก็มีแต่ต้องสู้ต่อไปเท่านั้น
ระดับความสยอง
         งดงาม ลงตัว และสมบูรณ์แบบในทุกๆองค์ประกอบ ช่วงแรกเป็นการถ่ายทอดบรรยากาศความงดงามของโลกและอวกาศได้อย่างยอดเยี่ยม จวบจนไปถึงฉากระทึกที่ตัวละครจะต้องเอาชีวิตรอดในสถานการณ์สุดตื่นเต้นและน่ากลัว ที่ผมยกให้เป็นจุดเด่นสุดๆของหนังเรื่องนี้คือเสียงครับ เสียงดนตรีประกอบของหนังเรื่องนี้จัดได้ว่าสุดยอดเกินกว่าจะหาคำมาบรรยายได้ รู้จักปรับหนักเบา ขึ้นลง เสียงกระหึ่ม เสียงเงียบ ทุกๆเสียงที่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร ส่วนตัวผมไม่ถนัดเรื่องเสียงเลยแม้แต่น้อย แต่หนังเรื่องนี้มันยอดเยี่ยมทรงพลังด้วยเสียงจริงๆครับ สมแล้วกับรางวัลออสก้าร์ในสาขาเสียงประกอบยอดเยี่ยม
 ระดับความน่าดู
       ถ้าหากคุณชอบหนังไซไฟและชอบบรรยากาศสวยๆของอวกาศ คุณก็ไม่ควรพลาดชมหนังเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง และยิ่งถ้าคุณเป็นคนชอบหนังระทึกขวัญอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ นี่คือหนังที่คุณสมควรดูให้ได้สักครั้งในชีวิต ตัวหนังบอกให้เราเห็นถึงความน่ากลัวของสภาวะในแรงโน้มถ่วง ทั้งการเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้อย่างยากลำบาก อากาศคือสิ่งที่มีค่าเสียยิ่งกว่าอะไร รวมไปถึงเรื่องความหวังและกำลังใจ คนเราเวลาหมดสิ้นหนทาง จะแบ่งได้เป็น 2 พวก พวกแรกคือหมดแล้วหมดเลยไม่ไปต่อ คนพวกนี้จะจมดิ่งไปกับความหวังที่ฝันสลาย พวกเขาจะตายอย่างช้าๆจากความรู้สึกที่สิ้นหวังของตัวเอง อีกพวกคือหมดแล้วซึ่งความหวังแต่ยังมีกำลังใจ คนพวกนี้จะลุกขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ ล้มแล้วลุกอีกได้ไม่เป็นไร สองพวกนี้ต่างกันตรงไหนรู้ไหมครับ "กำลังใจ" หนังเรื่องนี้แสดงออกให้เห็นถึงความพยายามอย่างถึงที่สุดในการเอาชีวิตรอดจากสารพัดปัญหาที่ถาโถมเข้ามา แต่พวกเขาเลือกที่จะสู้จนวินาทีสุดท้าย ดูเถอะครับไม่ผิดหวังแน่นอน

ลิ้งดูหนังนะครับ ^ ^
Gravity 2013 มฤตยูแรงโน้มถ่วง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น