วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Review:Lonely Hearts 2006 คู่ฆ่า…อำมหิต


            จากเรื่องจริงสุดสะเทือนขวัญและสั่นประสาทคนทั้งอเมริกามาแล้ว Lonely Hearts Killer เรื่องราวของนักต้มตุ๋น คู่รักและฆาตกร เรย์ เฟอร์นานเดซ และ มาร์ธา เบ็ค ที่ร่วมกันฆาตกรรมหญิงสาวมามากกว่า 19 ราย ทั้งคู่ถูกจับได้และถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าในวันและเวลาเดียวกัน Lonely Hearts หนังเริ่มต้นมาที่เรย์หนุ่มวัยกลางคนที่ลักษณะท่าทางดูดีมีสกุล แต่เบื้องลึกแล้วเขาเป็นเพียงนักต้มตุ๋นที่อาศัยหลอกเงินจากสาวแก่แม่หม้ายมาใช้ โดยอาศัยช่องทางของ Lonely Hearts Club คลับสาวเปลี่ยววัยดึกที่พยายามหาชายสักคนมาดูแลและเคียงข้างกาย จากตรงนี้เองทำให้เรย์ได้พบกับมาร์ธา ทั้งคู่ตกหลุมรักซึ่งกันและกันอย่างบอกไม่ถูก (จากจะมาหลอกแต่กลายเป็นรัก) ทั้งๆที่มาร์ธาก็รู้ความจริงว่าเรย์เป็นนักต้มตุ๋น แต่เธอก็เลือกที่จะติดตามเรย์ไปทุกที่ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นน้องสาวและนั่นช่วยให้เรย์ดูเป็นคนมีความอ่อนโยนมากขึ้นในแววตาของหญิงสาวที่เขาพบเจอ โดยทั้งคู่จะติดต่อไปหาเป้าหมายเป็นหญิงหม้ายที่ดูมีฐานะ จากนั้นก็จะนัดพบกัน เรย์ได้ใช้เสน่ห์คารมคมคายและความฉลาดของเขาหลอกล่อเหยื่อให้ตายใจ จนท้ายที่สุดเหยื่อก็เชื้อเชิญพวกเขาให้เขามาพักในบ้านของเธอ หลังจากอาศัยอยู่ที่บ้านของเหยื่อสักพัก ทั้งคู่ก็เริ่มลงมือรีดไถและผลาญเงินของเหยื่อให้หมดไปกับสิ่งของต่างๆที่พวกเขาอยากได้ พอเหยื่อเริ่มหมดตัวพวกเขาก็จะหนีไปและเริ่มหาเหยื่อรายใหม่อีกครั้ง แต่ทว่าปัญหาก็เกิดเมื่อมาร์ธาเริ่มไม่สบอารมณ์ที่เห็นเรย์ร่วมหลับนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา เธอรู้สึกหึงจนบันดาลโทสะฆาตกรรมเหยื่อคนหนึ่งเข้าให้ ทั้งคู่จัดการซ่อนศพเอาไว้ในบ้านของเหยื่อด้วยการโบกปูนทับ เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นหน้าที่การตามหาตัวฆาตกรจึงตกมาเป็นของ นักสืบเอลเมอร์ โรบินสัน เขาพยายามตามล่าฆาตกรวิปริตคู่นี้อยู่นานหลายปี แต่ทว่าก็พบแต่ร่องรอยและศพของเหยื่อรายใหม่ๆที่พวกมันฆ่าทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น เอลเมอร์หมกหม่นอยู่กับงานชนิดข้ามวันข้ามคืน ส่งผลให้ภรรยาและลูกชายของเขาต้องทิ้งไป เพราะพวกเขาคิดว่าเอลเมอร์ไม่มีเวลาให้กับครอบครัว จนกระทั้งเหยื่อรายล่าสุดของเรย์และมาร์ธาก็คือ เรเน่ โฟร์ดี้ ซึ่งเธอก็คือภรรยาของนักสืบเอลเมอร์นั่นเอง เขาจะหยุดเหตุการณ์ร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับครอบครัวได้ทันเวลาไหม หรือว่านี้จะกลายเป็นโศกนาฎกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่เขาจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิตกันแน่


ระดับของเนื้อหา
       ตัวหนังถูกสร้างและดัดแปลงมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงปลายของปี 40' โดยเรื่องราวบางส่วนถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของนักสืบเอลเมอร์ โรบินสันเอง (นับเป็นปู่แท้ๆของผู้กำกับ ทอดด์ โรบินสัน) ซึ่งเขาเป็นผู้จับกุมฆาตกรสุดวิปริตคู่นี้ได้และกรมตำรวจได้ตั้งฉายาพวกมันไว้ว่า "Lonely Hearts Killer ฆาตกรใจเปลี่ยว" ด้วยสาเหตุที่พวกมันจะเลือกเหยื่อที่เป็นสาวหม้าย ไม่ก็พวกสาวแก่ขี้เหงา ทั้งคู่ถูกตัดสินประหารชีวิตและนักสืบเอลเมอร์ โรบินสันได้ลาออกจากการเป็นตำรวจหลังจากคดีนี้ถูกปิดลง
ระดับความสยอง
          เห็นเป็นหนังที่ขายดาราชั้นนำแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่โหดนะครับ แล้วยิ่งเรื่องราวของมันถูกสร้างมาจากเรื่องจริงแล้วด้วยล่ะก็บอกเลยว่าโหดเหี้ยมมาก อีกทั้งยังมีส่วนที่ใกล้ตัวคนเรามากถึงมากที่สุด โดยฆาตกรจะอาศัยช่องว่างของเหยื่อที่กำลังเสียใจและอ่อนแอ ไม่ว่าจะเพิ่งอกหักหรือสามีเสียชีวิตก็ตาม เพื่ออาศัยจังหวะนี้หลอกล่อให้เหยื่อตายใจได้โดยง่าย จากนั้นก็จะปอกลอกพวกเขาและลงมือฆ่าทิ้งในที่สุด
 ระดับความน่าดู
          ถ้าจะให้พูดถึงคู่รักฆาตกรที่โด่งดังในโลกของความจริงแล้ว เชื่อว่าชื่อของเรย์ เฟอร์นานเดซและมาร์ธา เบ็คจะติดโผ่อยู่ในนั้นแน่นอน ซึ่งทั้งคู่จัดว่าเป็นอีกหนึ่งในคู่รักฆาตกรที่มีจิตวิปลาสแบบสุดๆ พวกเขานั้นมีความรักต่อกันก็จริง แต่ทว่าก็ร่วมหลับนอนกับคนอื่นไปพร้อมๆกันด้วย อีกทั้งยังทำการฆาตกรรมเหยื่อเหล่านั้นอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา ด้วยสาเหตุที่หึงหวงซึ่งกันและกันเอง (แต่ก็ยังทำแบบนั้นอยู่เรื่อยๆเนี่ยนะ จิตผิดปกติแบบกู่ไม่กลับจริงๆ) ทั้งคู่ถูกจับกุมตัวได้โดยฝีมือของนักสืบเอลเมอร์ โรบินสันและถูกตัดสินให้ประหารชีวิต ปิดตำนานคู่รักฆาตกร Lonely Hearts Killer

ลิ้งดูหนัง  Lonely Hearts 2006 คู่ฆ่า…อำมหิต

Lonely Hearts 2006 คู่ฆ่า…อำมหิต


         เกร็ดความรู้จากหนัง "Lonely Hearts Killer ฆาตกรใจเปลี่ยว" คือฉายาของกรมตำรวจที่ตั้งให้ 2 ฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นคู่รักกันอย่าง เรย์ เฟอร์นานเดซและมาร์ธา เบ็ค ซึ่งทั้งคู่ได้ออกตระเวนหลอกลวงและฆ่าเหยื่อมาแล้วมากมายหลายราย ซึ่งอาจจะมีมากกว่า 19 ศพ โดยบุคคลิกส่วนตัวแล้ว เรย์ เป็นชายรูปร่างผอมบาง แต่มีดีที่คารมและความฉลาดซึ่งวัดไอคิวแล้วได้ถึง 135 (ด็อกเตอร์ดีๆนี่เอง) ซึ่งในก่อนหน้านี้เขาได้ล่อลวงหญิงแก่แม่หม้ายมาแล้วหลายรายแต่ก็ยังไม่ได้ลงมือสังหารใคร จนกระทั่งได้มาพบกับมาร์ธาหญิงสาวที่มีรูปร่างอ้วนฉุ ซึ่งมาร์ธาเองก็หลอกลวงเรย์ว่าตัวเองรวยและมีเงินทองมากมาย (นักต้มตุ๋นเจอนักต้มตุ๋นกว่า) แต่เมื่อเรย์พบว่ามาร์ธาโกหก เขาก็พยายามที่จะหนีไปให้ไกลจากเธอ แต่ทว่ามาร์ธาก็ไม่ลดละความพยายามอยากจะเอาเรย์เป็นสามีให้ได้ ด้วยการที่บอกว่าเธอจะช่วยเหลือเขาในการหลอกหลอกหญิงสาวคนอื่นๆ มาร์ธาอ้างตัวเป็นน้องสาวของเรย์ ซึ่งนั่นทำให้เหยื่อตายใจได้โดยง่ายและมองว่าเรย์เป็นคนมีความรับผิดชอบไม่ทิ้งให้น้องสาวต้องอยู่เพียงลำพัง แต่แล้วความหึงหวงก็ไม่เข้าใครออกใครเมื่อมาร์ธารู้สึกว่าเรย์ให้ความสำคัญเหยื่อมากกว่าตัวเธอเอง เธอจึงลงมือสังหาร เจเน็ต แอลเฟย์ หญิงแก่แม่หม้ายวัย 62 ปี ด้วยการฟาดเธอด้วยค้อนจากข้างหลัง แต่ทว่าเจเน็ตกลับยังไม่ตาย ร่างกายเธอยังกระตุกและส่งเสียงโอดครวญอยู่ เรย์จึงหยิบผ้าพันคอที่อยู่ใกล้ตัวจัดการรัดคอเธอจนหายใจไม่ออกและหักคอเสีย จากนั้นทั้งคู่ก็ร่วมรักกันข้างๆศพของเจเน็ตที่นอนแน่นิ่งอยู่ภายในห้อง ส่วนศพก็จับยัดลงในหีบและนำไปฝังไว้ในห้องใต้ดินแล้วโบกซีเมนซ์ทับไว้ ทั้งคู่ออกเดินทางเร่ร่อนต่อไปที่มิชิแกน จนได้พบกับเหยื่อรายใหม่คือ เดลฟิเน่ ดาวน์นิ่ง กับลูกชายวัยขวบเศษของเธอ ซึ่งเดลฟิเน่นั้นกำลังอยู่ในช่วงโศกเศร้าเสียใจภายหลังที่สามีของเธอประสบอุบัติเหตุถูกรถไฟชนจนเสียชีวิต ความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวและการต้องเลี้ยงลูกเล็กเพียงลำพัง ทำให้เดลฟิเน่หม้ายสาววัยเพียง 28 ปี ได้เปิดใจรับเอาเรย์และมาร์ธาเข้ามาอยู่ในชีวิตของเธอ ทั้งคู่ร่วมรักกันจนทำให้มาร์ธาไม่พอใจขึ้นมาอีกครั้ง เธอปรี๊ดแตกเพราะเดลฟิเน่ทั้งสาวและสวยกว่า มาร์ธาสั่งให้เรย์ฆ่าเดลฟิเน่ทิ้งซะ ส่วนเธอก็จะเป็นคนจัดการเด็กเอง ว่าแล้วเรย์ก็ลงมือฆาตกรรมอีกครั้งหนึ่ง ที่โหดกว่านั้นก็คือมาร์ธาได้นำตัวเด็กชายตัวเล็กๆไปยังอ่างล้างจานที่เปิดน้ำทิ้งไว้จนเต็ม เธอจับหัวเด็กชายตัวน้อยกดแช่ลงไปน้ำ เขาสำลักและกระเสือกกระสนดิ้นทุรนทุรายอยู่นานจนขาดใจตายในที่สุด ทั้งคู่ฝังศพแม่และเรลเนลล์ลูกชายไว้ในหลุมที่บ้านของเธอเอง จากนั้นก็ใช้ชีวิตตามปกติในบ้านของเหยื่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเพื่อนบ้านได้แจ้งความกับตำรวจว่าเดลฟิเน่และเรลเนลล์ลูกชายคนเล็กได้หายตัวไป ตำรวจได้พากำลังกันมาค้นบ้านของพวกเขาและพบศพแม่ลูกถูกฝังอยู่ในหลุมที่โบกด้วยซีเมนต์ ส่วนเรย์ เฟอร์นานเดซและมาร์ธา เบ็คถูกจับกุมตัวได้ภายหลังที่พวกเขาออกไปดูหนังกันมาอย่างสบายอุรา ระหว่างพิจารณาคดีทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังพูดอวดถึงวิธีการที่พวกเขาลงมือให้พวกลูกขุนฟังอย่างไม่เกรงกลัว พวกเขาไม่ยี่หระคล้ายกับว่าเตรียมตัวเตรียมใจมาเป็นอย่างดีแล้ว ระหว่างที่รอโทษประหารพวกเขาเขียนจดหมายหากันหลายฉบับ คล้ายกับว่านี่คือ"รักแท้"ที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ หลายคนอาจจะมองว่าพวกเขาบ้าและวิปลาส แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าเขาเกิดมาเพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกัน วันที่ 8 มีนาคม 1951 เรย์ เฟอร์นานเดซ และ มาร์ธา เบ็ค ได้ถูกประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าพร้อมกันในวันเดียวกัน โดยใช้เก้าอี้ตัวเดียวกัน ซึ่งเรย์ถูกประหารก่อนและตามด้วยมาร์ธา ว่ากันว่ามาร์ธาเธออ้วนเกินไปและมีไขมันสะสมอยู่ในร่างกายเป็นจำนวนมาก ทำให้การสับกระแสไฟฟ้าเพียงครั้งเดียวไม่อาจคร่าชีวิตของเธอได้ เธอยังคงมีชีวิตแม้ว่าร่างกายของเธอจะเริ่มไหม้เกรียม เลือดและของเสียไหลทะลักออกมาทั่วร่างกาย เพชฌฆาตต้องสับกระแสไฟฟ้าถึง 4 ครั้งก่อนที่เธอจะขาดใจตายในที่สุด เป็นการปิดตำนาน Lonely Hearts Killer ฆาตกรใจเปลี่ยว ไว้ลงแต่เพียงเท่านี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น