วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Review : Cloverfield 2008 วันวิบัติอสูรกายถล่มโลก


          นี่คือหนังที่สร้างเสียงวิจารณ์กระหึ่มไปทั่วโลก มีผู้ชมเป็นจำนวนไม่น้อยที่ลุกอยากจากโรงก่อนดูหนังจบ ด้วยปวดความหัววิงเวียนจนอยากจะอาเจียนไปกับมุมกล้องและการถ่ายทอดภาพแบบโฮมวิดิโอ ถึงกระนั้นแล้วก็ยังมีผู้ชมอีกกลุ่มหนึ่งที่คิดว่าตัวหนังเรื่องนี้คือความสุดยอด ด้วยการถ่ายทำแบบดังกล่าว เสมือนพาผู้ชมได้เข้าไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ไม่ว่าเป็นแผ่นดินไหว ตึกถล่ม หรือกลุ่มสัตว์ประหลาดบุกโจมตี Cloverfield เรื่องราวต้นที่เหตุทะเลาะเบาะแว้งกันของคู่รักคู่หนึ่งในงานเลี้ยง บ๊อบและเบธ หลังจากมีปากเสียงกันในงาน เบธจึงตัดสินใจเดินออกจากที่นั่น ต่อมาไม่นานหลังจากนั้น จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไฟดับขึ้นทั้งเมือง คล้อยหลังเพียงไม่กี่นาทีเมืองทั้งเมืองถูกบุกถล่มโจมตีโดยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น ทุกคนต่างพากันหนีตายอลหม่าน บ๊อบพยายามติดต่อเบธแฟนสาวของเขาด้วยความเป็นห่วง แต่สถานการณ์ตอนนี้พวกเขาก็ยังแทบเอาชีวิตตัวเองไม่รอดเหมือนกัน เมื่อตึกที่พวกเขาอยู่กำลังจะถล่มลงมา ด้วยฝีมืออสุรกายขนาดยักษ์ที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ เมืองทั้งเมืองกำลังถูกกลุ่มอสุกายมากมายบุกถล่ม หลายคนรอดชีวิตและอีกหลายคนล้มตายกันระเนระนาด ในที่สุดบ๊อบและเพื่อนๆก็รอดพ้นออกมาจากที่นั่นได้ แต่ทว่าบ๊อบกลับได้รับการติดต่อกลับมาจากเบธ ซึ่งเธอยังมีชีวิตอยู่และกำลังหาทางเอาชีวิตรอดอยู่ในเมือง บ๊อบและเพื่อนๆจึงตัดสินใจกลับเข้าเมืองอีกครั้งเพื่อไปช่วยเบธ แต่นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับฝูงอสุกายมากมาย ที่พร้อมจะคร่าชีวิตของพวกทุกคน...


ระดับของเนื้อหา 3 ดาว หนังถ่ายทำผ่านกล้องวิดิโอทั้งเรื่องครับ โดยผู้ที่กล้องก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งของบ๊อบ เพราะฉะนั้นเราจะได้พบเห็นเหตุการณ์ต่างๆมากมายผ่านกล้องตัวนี้ตัวเดียวทั้งเรื่อง (ย้ำว่าทั้งเรื่อง บางคนแอบลุ้นให้กล้องมันพัง เพราะว่าเวียนหัวเหลือเกิน - -'') ซึ่งแน่นอนว่ามันทั้งสั่น หมุน และเคว้งคว้างประหนึ่งกับว่าไร้แรงโน้มถ่วง เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย แค่เอาชีวิตรอดให้ได้จากเหล่าอสุกายก็พอแรงแล้วครับ

ระดับความสยอง 4 ดาว  ก็ต้องยอมรับล่ะครับว่าหนังมันดีกว่าหนังในแนวเดียวอย่าง The Blair Witch Project มากพอตัวเลย ทั้งฉากลุ้นระทึกและการหนีเอาชีวิตรอดที่สุดสมจริง อีกทั้งยังมีเหล่าอสุกายแปลกๆมากมายที่พร้อมจะคร่าชีวิตได้ทุกเมื่อ (แต่โดนส่วนตัวผมชอบหนังแนวเดียวกันนี้อย่าง Rec มากกว่าครับ เหตุผลสั้นๆเลยก็คือ กล้องมันเหวี่ยงน้อยกว่าครับ ดูสบายตากว่ากันเยอะ)

 ระดับความน่าดู 4 ดาว จริงๆแล้วหนังมันทำออกมาได้อย่างสุดยอดเลยนะครับ แต่เสียอย่างเดียวก็คือมุมกล้องมันดูจะสมจริงสมจริงเกินไปหน่อยหนึ่ง (เข้าใจว่าอยากให้มันสมจริงสุดๆ แต่ทว่ามันก็สุดเกินไปจนดูลำบากนั่นเอง) หลายต่อหลายฉากเล่นเอาคนดูเวียนหัวจนจะอ้วกรดคนข้างๆ แต่หากลองได้ดูหนังมันซ้ำอีกสักรอบสองรอบให้สายตารับกับระดับของภาพได้แล้วล่ะก็ มันก็คืออีกหนึ่งสุดยอดหนังสัตว์ประหลาดถล่มโลกที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้ใครเลยทีเดียว

ตัวหนังนะครับ ^ ^ พากย์ไทย

Cloverfield 2008 วันวิบัติอสูรกายถล่มโลก

4 ความคิดเห็น:

  1. จริงหรือเปล่าฮะ พี่อ้วนน้อยว่าเรื่องนี้ถ้าอยากดูรู้เรื่องทะลุปรุโปร่งต้องตาม side story ตัวละครด้วยว่าแต่ละคนเป็นยังไงแล้สเอามาเชื่อมกับเนื้อเรื่องอีกทียิ่งไปอ่านใน pantip มาเค้าบอกว่าปริศนาความลับในเรื่องนี้เยอะมาก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริงครับผม ^ ^ จริงๆแล้วนอกจากเรื่องสัตว์ประหลาดมาบุกถล่ม ยังมีเรื่องของความผูกพ้นธ์และความรักต่อตัวละครที่มีให้กันอีก
      มิหนำซ้ำ ไม่ว่าจะภาพ เสียง หรือมุมกล้องที่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ล้วนแล้วแต่มีนัยยะหรือมีความหมายทั้งสิ้น ซึ่งการดูเพียงรอบเดียวนอกจากจะเวียนหัวเพราะไม่ชินกับสายตาแล้ว ยังเก็บรายละเอียดได้ไม่ครบถ้วนอีกด้วยครับ

      ลบ
    2. ต้องกลับไปดูอีกรอบซะแล้ว รอบแรกมึนหัวมาก ไม่รุจะเหวี่ยงอะไรนักหน่า[คิดในใจ] ฮ่า ๆ

      ลบ
  2. ได้ยินชื่อเรื่องนี้มานานมากแต่ไม่เคยดูเลย เพราะเคยเห็นรีวิวว่าเป็นหนังเด็กแนวดูยากชัวร์555555 แต่รีวิวนี้ทำให้คิดว่าน่าจะลองซักหน่อย55555

    ตอบลบ