Review : Dreamcatcher 2003 ล่าฝันมัจจุราช..อสุรกายกินโลก (คุณขอมา)

       คำว่า Dreamcatcher มีความหมายว่า เครื่องรางสำหรับจับฝันร้าย ที่แขวนเอาไว้คอยดักสิ่งที่ไม่ดี ไม่ให้เข้ามาสู่บ้านหรือสู่ตัวของผู้ที่แขวน ซึ่งมันเป็นความเชื่อของชนเผ่าอินเดียนแดงอย่างหนึ่ง นอกจากคุณสมบัติดังที่กล่าวมา เครื่องรางนี้ยังมีไว้ดูดสิ่งดีๆเข้ามาหาตัวผู้แขวนอีกด้วย บางคนเชื่อว่าสามารถปกป้องป้องกันจากสิ่งชั่วร้าย ภูติผีปิศาจ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน แต่เป็นป้องกันเอเลี่ยนแทนนะ เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนซี้ ที่นัดกันมารวมตัวในวันครบรอบการเป็นเพื่อนของพวกเขา เพื่อหวนนึกถึงวันเก่าๆในอดีต ที่กระท่อมกลางป่าห่างไกลผู้คน ทั้งเงียบสงบและสมบูรณ์ในการพักผ่อนเสียจริงๆ ครั้งหนึ่งในอดีตสมัยที่พวกเขายังเป็นเด็ก ได้บังเอิญไปพบเด็กประหลาดๆคนหนึ่งที่กำลังโดนแกล้งอยู่ พวกเขาทนไม่ไหวจึงเข้าไปช่วย ต่อมาจึงได้รู้ว่าเด็กคนนั้นชื่อว่าดัดดิทส์ เขาเป็นดาวซินโดรมแต่กลับมีพลังพิเศษบางอย่างที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ การที่พวกเขาได้ช่วยเหลือดัดดิทส์ ทำให้ดัดดิทส์แบ่งพลังบางอย่างมาให้พวกเขาทั้งสี่คน ซึ่งแต่ละคนก็มีความสามารถแตกต่างกันไป พวกเขาทั้งหมดได้กลายเป็นเพื่อนกัน จนกระทั่งถึงวันนี้ที่กระท่อมกลางป่า บางสิ่งบางอย่างที่น่าสะพรึงกำลังคลืบคลานเข้ามาหาพวกเขา การมาถึงของชายแปลกหน้านักล่าสัตว์ที่หลงทางมา โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าชายคนนี้ติดเชื้อบางอย่างที่ร้ายแรงมาและอาจทำให้พวกเขาทั้งหมดต้องตาย พวกเหล่าเอเลี่ยนเริ่มมีการเคลื่อนไหว กว่าทุกคนจะล่วงรู้ได้มันก็เกือบสายไปเสียแล้ว พวกเขาทั้งหมดต้องรื้อฟื้นพลังเมื่อสมัยก่อนขึ้นมา เพื่อยับยั้งเหตุการณ์นี้ให้จงได้ ก่อนที่จะถูกพวกมันยึดครองโลก แท้จริงแล้วดัดดิทส์คือใคร แล้วเขาแบ่งพลังให้พวกเขาทำไม ปริศนาทุกๆอย่างจะคลี่คลายหาคำตอบได้ในหนังเลยครับ

ระดับของเนื้อหา 4 ดาว เป็นหนังสยองขวัญไซไฟที่สร้างมาจากงานเขียนของสตีเฟ่นคิง ที่มาพร้อมแนวความคิดเรื่องเอเลี่ยนล้างโลกกับโลเคชั่นหิมะขาวๆสวยๆ ที่ให้อารมณ์แบบเดียวกับหนังสยองขวัญคลาสสิคอย่าง The Thing ช่วงแรกของหนังอาจจะเอื่อยๆไปนิดทำให้หลายๆคนไม่ชอบและมองว่าหนังเรื่องนี้ไม่สนุก แต่พอถึงช่วงที่ชายแปลกชายมาเคาะประตู เนื้อเรื่องก็เริ่มเข้าเค้าความสยองแล้วล่ะครับ เนื้อหาและแนวคิดเกี่ยวกับเอเลี่ยนทำออกมาได้ดีและน่าสนใจ

ระดับความสยอง 3 ดาว ฉากสยองขวัญมีครับ น่ากลัวด้วย แต่มันมีแค่นิดเดียวน้อยไปหน่อยแค่นั้นเอง เพราะจุดขายไม่ได้อยุ่ที่ตรงนี้มากนัก มันอยู่ที่ความลึกลับซับซ้อนของเนื้อหา และบทสรุปของหนัง ว่าแท้จริงแล้วอะไรเป็นอะไร สนุกสยองระดับคนธรรมดาดูได้

ระดับความน่าดู 4 ดาว เป็นหนังที่สตีเฟ่นคิง ยกย่องว่าสร้างออกมาได้สะใจและคล้ายคลึงกับหนังสือที่เขาเขียนมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ตัวหนังเองก็ทำออกมาใช้ได้ แต่อย่างว่าหนังมันค่อนข้างเอื่อยๆกว่าจะถึงจุดพีคสุดของหนังต้องใช้เวลาพอสมควร ทำให้คนไม่ชอบก็ไม่ชอบเลย แต่กลับกัน ถ้าคนชอบนี่ก็ชอบแบบสุดๆไปเลย มันทั้งคลาสสิค สวยงามและลงตัว สำหรับคนไม่เคยดูผมแนะนำให้ดูครับ ส่วนคนที่เคยดูแล้ว ถ้าเข้าใจความหมายของหนังว่ามันจะสื่อถึงอะไร หนังมันก็จะสนุกมากขึ้นแน่นอนครับ

 ตัวหนังนะครับ ^ ^ ซับไทยพร้อมด้านในเลย

Dreamcatcher (2003) ล่าฝันมัจจุราช..อสุรกายกินโลก